การจับคู่สีของเกม Magic the Gathering นั้นมีความเด่นชัดในช่วง Plane Ravnica มากที่สุด เนื่องจากด้วยเนื้อเรื่องของเกม จะกล่าวถึงเมือง ที่ในเมืองประกอบไปด้วย 10 กิลด์ ซึ่งทั้ง 10 กิลด์นั้นมีความแตกต่างกันจากคู่สีมานาที่นับมาจับคู่กัน โดยในการจับคู่นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือการจับคู่สีพันธมิตร และการจับคู่สีตรงข้าม ซึ่งสังเกตได้จากด้านหลังการ์ดเกม Magic The Gathering ดังนี้
คู่สีพันธมิตร มาจากการจับคู่สีที่อยู่ติดกัน เรียงตามด้านหลังการ์ด
คู่สีตรงข้าม คือการจับคู่สี โดยจะมีสีอื่นมาคั่นระหว่างทั้งสองสี
ด้านหลังของการ์ด
สีคู่ตรงข้าม
1. ขาว - ดำ (Ozhov) : ขาวคือสีของความเป็นองค์กร ดำคือสีของความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่ผูกทั้งสองสีนี้เข้าด้วยกันคือความกลัว สีขาวกลัวที่จะเสียความเป็นองค์กร ดำกลัวที่จะศูนย์เสียพลัง จึงเกิดเป็นองค์กรที่วางรูปแบบเพื่อรักษาพลังขององค์กร
ชื่อสี Ozhov มาจากกิลด์ของ Plane Ravnica เป็นกิลด์ที่ทำหน้าที่เป็นธนาคารของเมือง แต่กระนั้นก็ดี ความที่กิลด์ Ozhov ควบคุมการเงินทุกอย่างของเมือง จึงเป็นกิลด์ที่มีอำนาจสูง และมักจะมีความเกี่ยวข้องเป็นเบื้องหลังในเหตุการณ์ต่างๆ อยู่เสมอๆ และเมื่อคุณเป็นหนี้กับกิลด์นี้แล้ว แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถล้างหนี้ได้ เพราะคุณจะถูกแปลงเป็นผีดิบ (Thrul) หรือเก็บวิญญาณเอาไว้เพื่อทำงานใช้หนี้... ซึ่ง ทำได้เพียงแค่ชดใช้ดอกเบี้ยเท่านั้น
การ์ดคู่สีขาวดำ เป็นการ์ดที่แสดงถึงการใช้พลัง แต่มากเกินควร ซึ่งสะท้อนให้เห็นความกลัวที่จะจัดการปัญหาเหล่านั้นไม่ได้ และการ์ดอื่นๆ ที่เด่นชัดจะเป็นการ์ดประเภท ทำให้คู่ต่อสู้เสียเลือด เพื่อนำมาเพิ่มให้กับเรา เป็นการสร้างความได้เปรียบในเกมไปเรื่อยๆ
การ์ดแบบ"เอาออกจากเกมไปเลย"
การ์ดที่ทำลายได้หลากหลายประเภท
ลดเลือดเขา แล้วยังเพิ่มเลือดเราอีก
ข้อเสียของคู่สีนี้ หลักๆ จะเป็นเรื่องความต้องการมานาที่เยอะ (แต่ยังไม่เท่าคู่สีขาว - ฟ้า) หรือเงื่อนไขอะไรบางอย่างเพิ่มเติม
การ์ดที่มีเงื่อนไขในการใช้งาน
การปิดเกมของคู่สีนี้ จะมีความคล้ายคลึงกับสีฟ้า - ดำ นั่นคือชิงความได้เปรียบไปเรื่อยๆ แต่จะใช้การลดเลือดคู่ต่อสู้โดยตรงมากกว่าการพยายามทำลายทรัพยากรอื่นๆ หรือใช้ Creature โจมตี
*อย่างไรก็ดี ในการออกแบบการ์ดของเกม Magic The Gathering นั้น ไม่ได้อิงจากรูปแบบกิลด์เท่านั้น คู่สีขาว - ดำ ยังมีเอฟเฟคอื่นๆ ในชุดอื่นๆ เช่น เผ่า Zombie, Knight, Vampire เล่นแบบเน้น Token เป็นต้น
2. ฟ้า - แดง (Izzet) : ฟ้าคือความคิดมาก่อนการกระทำ แดงคืออารมณ์ และทำก่อนที่จะคิด แม้ว่าจะมีความตรงกันข้ามสูง แต่เมื่อทั้งสองสีรวมกัน กลับแสดงออกมาเป็นความคิดแบบนอกกรอบ ความสร้างสรรค์ คู่สีนี้เป็นสีของการทดลองทำอะไรบางอย่าง โดยเน้นไปที่ความแปลกใหม่ ไม่ได้สนใจผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบเหมือนสีฟ้า แค่ขอได้ลองทำก็พอ
ชื่อสี Izzet มาจากกิลด์ของ Plane Ravnica เป็นกิลด์ที่ดูแลเรื่องพลังงานของเมือง และอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีต่างๆ ของเมือง เป็นกิลด์ที่รวมเหล่านักทดลอง และอัจฉริยะในสาขาต่างๆ มากมาย
การ์ดของคู่สีฟ้า แดง จะสะท้อนเรื่องการใช้เวทย์มนต์ต่างๆ เป็นไปในลักษณะของการหาความรู้(จั่ว) ของสีฟ้าและยังทำสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งมักจะเป็นการทิ้งการ์ดและสร้างความเสียหายของสีแดง นอกจากนี้ยังมีเวทย์ประเภทลอกเลียนแบบเวทย์อื่นๆ ใบเปลี่ยนเป้าหมายของเวทย์อื่นๆ
การ์ดย้ายเป้า เปลี่ยนของ
การ์ดลอกเลียนแบบการ์ดเวทย์อื่นๆ
การ์ดช่วยไม่ให้คู่สีนี้หยุดทำงาน
ข้อเสียของคู่สีนี้ คือความหลุดกรอบ บางครั้งก็เกินขีดจำกัดไปนิดๆ เป็นคู่สีที่อ้างอิงถึงการทดลองทำอะไรบางอย่างเยอะไป จนบางครั้ง การ์ดบางใบจะไม่เกิดผลอะไรเลย ถ้าไม่ได้มีการทดลองทำอะไรมาก่อนหน้า เสมือนการทดลองที่ไม่สารตั้งต้น ก็จะไม่มีอะไรแสดงผล
การ์ดที่ทรงพลัง... เมื่อทำการทดลองได้สำเร็จ
วิธีปิดเกมของคู่สีนี้ จะใช้การโจมตีที่รุนแรงจากการ์ดเวทย์เหมือนสีแดง แต่จะมีสีฟ้าที่คอยสนับสนุนไม่ให้เกิดอาการพลังหมดไวเหมือนสีแดง แต่บางครั้งสีฟ้าก็จะเป็นตัวทำให้เกมช้าลง เพราะต้องดึงจังหวะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเช่นกัน
*คู่สีฟ้า - แดงนั้น ยังมีรูปแบบการออกแบบที่โดนเด่นอื่นๆ เช่น เผ่า Wizard, เดค Storm (ร่ายเวทย์ให้เยอะๆ ในเทิร์นเดียว), การหมุนเวียนการ์ดทั้งมือ เป็นต้น
3. ดำ - เขียว (Golgari) : ดำนอกจากจะเป็นสีที่เห็นแก่ตัว ยังเป็นสีที่เลือกใช้ความตายมาเป็นประโยชน์ของตนเอง สีเขียวเองนั้น เข้าใจเรื่องของธรรมชาติเป็นอย่างดี นั่นคือการเกิด ย่อมมีการตาย เพียงแค่สีดำนั้นนำความตายมาเป็นประโยชน์ได้ คู่สีนี้ จึงเข้ากันได้ดีกว่าที่เห็น
ชื่อสี Golgari มาจากกิลด์ของ Plane Ravnica เป็นกิลด์ที่ดูแลเรื่องอาหารการกิน และจัดการของเสีย อย่างไรก็ดี กิลด์นี้ กลับสะท้อนความักใหญ่ใฝ่สูงของสมาชิกภายใน จึงมีปัญหาภายในอยู่เสมอๆ ทั้งจากการโดนแทรกแซง หรือความพยายามจะตั้งตนเป็นใหญ่ของสมาชิกภายในเอง
การ์ดคู่สีนี้ มักจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของการเล่นกับ Creature, สุสาน, การทำลายสิ่งต่างๆ ที่ทั้งสองสีทำได้ดีอยู่แล้ว รวมถึงการ์ดที่แสดงการฟื้นฟู การเติบโต เป็นต้น
การ์ดที่เล่นกับสุสาน
การ์ดที่เกิดผล เมื่อ Creature ตาย
การ์ดทำลาย
การ์ดเติบโต, ฟื้นฟู
ข้อเสียของคู่สีดำ - เขียว คือการ์ดประเภททำลายสุสาน เพราะเป็นสีที่อิงกับการเล่นการ์ดจากสุสานมากกว่าสีอื่นๆ และการ์ดที่อิงกับการบูชายัญของสีดำ ก็นับเป็นข้อเสียได้เช่นกัน เพราะสีที่ทำลายสุสานได้ดี คือสีดำนั่นเอง
การปิดเกมของคู่สีนี้ หลักๆ จะเป็นการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ลงไปในสุสาน สามารถถูกนำกลับมาใช้ใหม่ หรือเป็นส่วนช่วยในการทำเกมของการ์ดใบอื่นๆ ได้อีก และจะเน้นไปที่การทำความเสียหายผ่าน Creature คล้ายๆ กับสีเขียว แต่มีความโดดเด่นเรื่องของการวนกลับมาใช้ใหม่ได้ แม้จะเสีย Creature ตัวนั้นไป
4. แดง - ขาว (Boros) : แดงเป็นสีของอารมณ์ และมุ่งเน้นความใส่ใจไปที่แต่ละบุคคล แต่ขาวเป็นสีของความเป็นองค์กร เป็นสีที่ดูไม่น่าเข้ากัน แต่สีแดงนั้น เมื่อมีสีขาวเข้ามา สีขาวเข้ามาจัดการเรื่องของความวุ่นวาย เหมือนเป็นการสร้างองค์กรอะไรบางอย่างเพื่อควบคุม จึงเป็นสีที่เข้าใจความวุ่นวาย และการเลือกใช้มาตรการในการควบคุม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เหมาะสม ไม่กดทับความเป็นคนเหมือนกับสีขาว และไม่ทิ้งให้เกิดความวุ่นวายเหมือนสีแดง
ชื่อสี Boros มาจากกิลด์ของ Plane Ravnica เป็นกิลด์ที่ทำหน้าที่เหมือนกับตำรวจ คอยควบคุม และนำกฏหมายจากกิลด์ Azorious ไปใช้
การ์ดของคู่สีแดง - ขาว จะมีส่วนประกอบที่เด่นชัด คือการ์ดที่มีลักษณะเป็น "หัวหน้าหน่วย" ที่จะมีเอฟเฟคต่างๆ ที่ส่งผลให้การ์ดอื่นๆ ในสนามเก่งขึ้น โดยทั่วๆ ไป การ์ดคู่สีนี้จะมีส่วนผสมของการได้ปริมาณ Creature และการ์ดเสริมพลัง ของสีขาว ส่วนการ์ดหัวหน้าหน่วย และการ์ดเสริมพลัง จะมีส่วนผสมของความรุนแรงของสีแดง
การ์ดเรียกทัพ
การ์ดเสริมพลัง
การ์ดที่มีตัวเลือกของทั้งความเป็นสีแดง และสีขาว
ป้องกัน และตอบโต้
การ์ดระดับ"หัวหน้าหน่วย"
ข้อเสียของคู่สีแดง - ขาว คือการพึ่งพิงหัวหน้าหน่วย และการที่เดคจะทำงานเมื่อมี Creature มากพอ ทำให้จะแพ้ทางเดคที่มีใบทำลาย หรือเดคที่สามารถควบคุมสภาวะสนามได้ดี และการ์ดส่วนใหญ่ จะเล่นกับช่วงการโจมตี เหมือนกับการ์ดของสีขาว ทำให้บางครั้งจะไม่มีโอกาสได้ใช้การ์ดเหล่านั้นเลย
การจบเกมของคู่สีนี้ เน้นไปที่การใช้ Creature ตัวเล็กๆ ทำความเสียหายไปเรื่อยๆ และใช้หัวหน้าหน่วยลงมาเสริมพลัง โดยรวมจะใกล้เคียงกับสีเขียว - ขาว แต่จะเน้นไปที่การโจมตีอย่างต่อเนื่อง มากกว่าจะใช้ Creature ตัวเล็กๆ เพื่อสนับสนุน Creature ตัวใหญ่
*อย่างไรก็ดีการออกแบบการ์ดของคู่สีแดง - ขาว ในช่วงหลัง จะเริ่มเปลี่ยนไปใช้การ์ดเวทย์ในการเสริมพลังแทนที่การ์ดหัวหน้า และมีเอฟเฟคอื่นๆ ช่วยเพิ่มเติมจากการใช้เวทย์นั้นๆ เพียงอย่างเดียว
5. เขียว - ฟ้า (Simic) : เขียวคือสีของธรรมชาติ ฟ้าคือสีของความฉลาด การวางแผน เมื่อรวมกัน คือการทำให้ธรรมชาติ เป็นเหนือธรรมชาติ คู่สีเขียวฟ้า เป็นคู่สีที่มีความขัดแย้งในมุมมองอย่างมาก เมื่อเขียวเชื่อว่า ธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่ฟ้ากลับมองหาสิ่งที่สมบูรณ์แบบ เมื่อรวมกัน จึงกลายเป็นการพยายามพัฒนาธรรมชาติ จนบางครั้งก็หลุดกรอบความเหมาะสมไป
ชื่อสี Simic มาจากกิลด์ของ Plane Ravnica เป็นกิลด์ที่เป็นเหมือนโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลธรรมดา เพราะกิลด์นี้ ไม่เพียงต้องการรักษา แต่ต้องการทำให้ทุกสิ่งที่มีชีวิตแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งสะท้อนได้จากสมาชิกของกิลด์นี้ ที่มักจะเกิดการข้ามสายพันธ์จากการตัดต่อพันธุกรรม และยังมีการสร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ (Homunculus) ขึ้นมาอีกด้วย
ในแง่ของเกมการเล่นนั้น สีฟ้า จะเป็นสีที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ ทำให้ทำอะไรได้ช้า แต่จุดด้อยตรงนั้น จะได้สีเขียว ที่สามารถป้อนมานาให้สีฟ้าได้มากขึ้น การ์ดคู่สีนี้ จึงมักจะเห็นว่ามีค่าร่ายที่มาก แต่จะมีเอฟเฟคที่ค่อนข้างทรงพลัง โดยการ์ดส่วนใหญ่จะแสดงให้เห็นการวิวัฒนาการ (ผ่านการวางเม็ด +1 counter) นอกจากนี้ยังมีการลอกเลียนแบบ เมื่อสีฟ้า - แดง สามารถเลียนแบบเวทย์มนต์ได้ คู่สีเขียว - ฟ้า ก็สามารถสร้างร่างโคลนของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้เช่นกัน
การ์ดเร่งมานา
การ์ดแทนการ"วิวัฒนาการ"
เป็น Creature ทุกตัวได้เลย
ข้อเสียของคู่สีนี้ หลักๆ แล้วจะเป็นเรื่องของการใช้พลังงานที่มากจากสีฟ้า ซึ่งทำให้บางครั้งการ์ดที่อยู่ในมือไม่สามารถร่ายไปเล่นได้ในช่วงต้นเกม หากเจอกับเดคที่เล่นช่วงต้นเกม และยันไม่อยู่ ก็อาจจะแพ้โดยที่ยังไม่ได้เริ่มเล่นเลยก็เป็นได้
การ์ดที่ทรงพลังมากๆ แต่ก็เปลืองมานาเช่นเดียวกัน
*คู่สีเขียว - ฟ้า ยังมีการออกแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เผ่า Merfolk เป็นต้น
ขอบคุณภาพ และแหล่งข้อมูลจาก