ภายในส่วนที่ลึกที่สุดของห้องสมุดแห่งวิหารแห่งแสง

 

มหาจอมเวทย์แห่งแสง ได้พบเข้ากับร่างของเด็กคนหนึ่ง

เด็กหญิงตัวน้อย เธอนอนนิ่งอยู่ที่พื้น ท่ามกลางกองหนังสือมากมายที่ร่วงหล่นอยู่ข้างกายเธอ

ผมสีอ่อน บลอนด์ทองของเธอ สะท้อนแสงเรืองๆ จากวัตถุทรงกลมที่ส่องแสงอยู่ใกล้ๆ

วัตถุที่ลอยอยู่กลางอากาศ มันเกินความเข้าใจของท่านมหาจอมเวทย์แห่งแสงได้

กระนั้น เขาก็ยังให้การต้อนรับเด็กน้อยคนนี้เป็นอย่างดี

 

 

 

เด็กน้อยไม่สามารถจำความหลังใดๆ ได้เลย

เธอไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร เธอมาจากไหน สิ่งเดียวที่พอจะเป็นเบาะแสก็คือ บอลส่องแสงที่ลอยตามเธอตลอดเวลา

เท่าที่เหล่าผู้ทรงภูมิของวิหารแห่งแสงพอจะบอกได้ก็คือ เจ้าสิ่งนี้ น่าจะเป็นวัตถุโบราณทรงพลังเวทย์มนต์ แม้แต่ท่านมหาจอมเวทย์แห่งเมือง Solana ก็ไม่สามารถอธิบายได้มากกว่านี้

เจ้าบอลแสงเวทย์มนต์นี้ มันมีแกนกลางที่คล้ายคลึงกับรูปหยดน้ำ ว่ากันว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่เทพ Sol แห่งแสง เป็นผู้ประทานมันให้ก่อเกิดบนโลกแห่ง Rathe

มันจึงเป็นหนึ่งในวัตถุโบราณหายาก ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายใดๆ ได้ว่า เหตุใด มันจึงปรากฏอยู่ข้างกายของเด็กน้อยคนนี้

 

 

 

กาลเวลาผันผ่านไป เด็กน้อยได้ชื่อ Prism มาเป็นชื่อของเธอ

เธอได้เรียนรู้วิชาแห่งแสง ทั้งผ่านการถ่ายทอดจากท่านมหาจอมเวทย์เอง หรือการศึกษาหาความรู้จากห้องสมุดแห่งแสงด้วยตัวของเธอเอง

ท่านมหาจอมเวทย์ได้ถ่ายทอดความรู้ ทั้งด้านประวัติศาสตร์แห่ง Solana และวิชาแห่งแสง

และนอกเหนือเวลาที่ท่านมหาจอมเวทย์ได้สละเวลาให้แก่ Prism ตัวของเธอเองก็ยังศึกษาหาความรู้จากบรรดาคัมภีร์ และหนังสือโบราณมากมายเกินกว่าจะอ่านได้หมด แต่เธอก็ยังมีความสุขที่ได้ศึกษามัน

เธออ่านหนังสือเหล่านั้นจนจำได้ขึ้นใจ

 

 

 

ห้องสมุดแห่งแสงกลายเป็นดั่งบ้านของ Prism และผู้คนในเมือง Solana ก็ให้การต้อนรับเธออย่างอบอุ่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ที่มาที่ไปของเธอก็ตาม

วันเวลาของ Prism เต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ เธอได้ดำดิ่งไปกับองค์ความรู้มากมายที่ห้องสมุดแห่งแสงจะมอบให้ได้

ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีของสวนแห่ง Silvarium

ท้องถนนของเมือง Solana ก็กลายเป็นที่ที่ Prism จะได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เธอเรียนรู้มาจากหนังสือ แก่ผู้คน

 

 

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่ Prism ได้ตามหาหนังสือในห้องสมุดแห่งแสงมาอ่านตามปกติ

ปลายนิ้วของเธอได้สะดุดเข้าหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง สันของมันถูกพลังเวทย์มนต์บางอย่างปกป้องไว้

Prism หยิบมันออกมาจากชั้น ตราสัญลักษณ์ของท่านมหาจอมเวทย์แห่งแสงรุ่นที่ 2 ได้ส่องแสงสีทองออกมา

Prism เปิดหนังสือเล่มนั้นด้วยความใคร่รู้ สายตาของเธอกวาดไปมาถึงเรื่องราวที่ถูกเก็บไว้ภายใน

และเธอก็ได้อ่านบทนิยายที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล

 

 

เรื่องราวแห่ง Aegis ผู้ส่องแสง ผู้ส่งสาส์นและผู้ปกป้องเมือง Solana ไว้ด้วยปีกของท่าน (Herald of Protection)

 

 

เรื่องราวแห่ง Suraya ผู้ลึกลับ ผู้ส่งสาส์นแห่งความรู้ให้แก่ประชาชน (Herald of Erudition)

 

 

เรื่องราวแห่ง Themis ผู้ตัดสิน ผู้ส่งสาส์นแห่งความเที่ยงแท้ และยุติธรรม (Herald of Judgement)

 

 

เรื่องราวแห่ง Bellona ผู้ต่อกร ผู้ส่งสาส์นแห่งความกล้าหาญ (Wartune Herald)

 

 

เรื่องราวแห่ง Sekem ผู้กลืนกิน ผู้ส่งสาส์นแห่งการปัดเป่าภัยร้าย (Herald of Ravages)

 

 

เรื่องราวแห่ง Victoria ผู้คว้าชัย ผู้ส่งสาส์นแห่งชัยชนะ (Herald of Triumph)

 

 

เรื่องราวแห่ง Avalon ผู้รักษา ผู้ส่งสาส์นแห่งการฟื้นฟู (Herald of Rebirth)

 

 

เรื่องราวแห่ง Metis ผู้แข็งแกร่ง ผู้ส่งสาส์นแห่งการนำทาง (Herald of Tenacity)

 

 

Prism ดำดิ่งไปในเรื่องราวของเทพผู้พิทักษ์

เธอจดจ่อไปในตัวอักษรทุกตัวอักษร ภาพประกอบทุกภาพในหนังสือโบราณเล่มนั้น

เหล่าผู้ส่งสาส์น อันเป็นเทพพิทักษ์ผู้ทรงเกียรติคอยดูแลเมือง Solana และเป็นดั่งตัวแทนของเทพ Sol แห่งแสง ผู้ดูแลดาว Rathe

กระนั้น เมื่อ Prism เอ่ยนามของเหล่าเทพพิทักษ์ทั้งหลาย กลับกลายเป็นว่าไม่มีผู้ใดเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขามาก่อน

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธาของ Prism ที่มีต่อเหล่าเทพผู้ส่งสาส์นลดน้อยลงไป เธอกลับมุ่งมั่นที่จะส่งต่อเรื่องราวของเหล่าผู้ส่งสาส์น และให้นามของพวกเขาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง

 

 

 

ยิ่ง Prism เติบโตทั้งทางวัยวุฒิ และคุณวุฒิ

ความเชื่อมโยงระหว่างตัวเธอ และเหล่าผู้ส่งสาส์นแห่ง Solana ยิ่งทวีความเน้นเฟ้น, โดยเฉพาะผู้ส่งสาส์นแห่งความรู้อย่าง Suraya นั่นอาจจะเป็นเพราะทั้ง Suraya และ Prism ต่างเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

 

จนกระทั่งวันที่แสนสงบ ธรรมดาๆ วันหนึ่ง ได้เกิดเรื่องปาฏิหารย์ขึ้นอีกครั้ง เมื่อวัตถุทรงกลมที่คอยติดตามเธอมาตลอด ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง มันส่องแสงล้อมรอบร่างกายของ Prism

ราวกับมันตื่นรู้ไปพร้อมๆ กับเธอ

 

ท่านมหาจอมเวทย์แห่งแสง เห็นว่าเป็นลางบอกเหตุจากเทพ Sol

ท่านคงเลือกให้ Prism เป็นตัวแทนของท่าน

 

 

Prism ได้เลือกเส้นทางแห่งผู้สร้างภาพลวงตาตามความถนัดของเธอ

ภายใต้การศึกษาเฉพาะทาง พรสวรรค์ของ Prism ก็ได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่

ยิ่งการเวลาผันผ่าน พลังของเธอก็ยิ่งแข็งแกร่ง

เรื่องราวแห่งผู้ส่งสาส์นที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของเธอ ได้ประกอบร่างขึ้นมาเป็นตัวตน รวมถึงร่างแสงลวงตาอื่นๆ

เธอใช้มันเป็นเครื่องมือนำทางเหล่าผู้ศรัทธาหน้าใหม่ ในวิหารแห่งแสง

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่ Prism เดินเล่นอยู่ภายในเมือง Solana

เงามืดแห่งความชั่วร้ายก็ได้ทอดยาวเข้าสู่เมืองสุดที่รักของเธอ

 

สงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดได้ก่อตัวขึ้นอย่างกระทันหัน

Prism เห็นภาพของผู้คนในเมืองต่างตื่นตระหนก กับสงครามที่มาถึง

 

 

 

ในช่วงเวลาแห่งความน่าสะพรึงนี้ ผู้คนแห่งเมือง Solana ต้องการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมากกว่าที่เคย

Prism กับจิตใจที่มุ่งมั่นของเธอ ได้สร้างภาพลวงแห่งเหล่าผู้ส่งสาส์น เข้าสู่สนามรบ

เพื่อปกป้องเหล่าประชาชน เพื่อสร้างศรัทธาในวิถีแห่งแสง

และตราบเท่าที่ Prism ยังยืนหยัด เรื่องราวแห่งเทพผู้พิทักษ์จะยังคงทรงพลัง และสืบต่อไป

 

 

(Written by Nicola Price, edited by Tarryn Thomas, illustrated by Sam Yang.)