- การบ้าน -

Will นั่งทอดสายตาเหม่อมองออกไปยังหน้าต่างในห้องพักของเขา

ใบไม้ที่ร่วงหล่นจากฤดูกาลใบไม้ร่วงล่องลอยไปตามสายลมจนมันหยุดนิ่งอยู่ที่ลานกลางแจ้ง

เหล่านักเรียนในชุดฟ้า-แดง ของ Prismari เดินผ่านไปมา พวกเขาส่งเสียงพูดคุยกันอย่างออกรส บ้างก็เดินจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ ระหว่างการเดินเท้า...

Will นั่งมองทั้งหมดนั่น ก็เพียงเพื่อพักสายตาจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา

-หลักจริยะศาสตร์แห่งการควบคุม Aether-

การบ้านระยะเวลา 1 สัปดาห์... ที่เขาเองยังคิดไม่ตก... Will ถอนใจ ก่อนที่จะคว้าดินสอขึ้นมา พร้อมๆ กับประตูห้องพักที่ถูกเปิดออก

Rowan เดินเข้ามาลมพัดให้ผมของเธอยุ่งเหยิงเล็กๆ แต่ก็มีรอยยิ้มเปื้อนหน้า

 

“ว่าไง” Will ทัก Rowan ด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

“อ่าว! ไง” Rowan ตอบกลับ

“เธอหายไปไหนมาเนี่ยะ”

“อยู่กับ Auvernine และก็ Plink ไง” Rowan ตอบ รอยยิ้มของเธอหายไป เพราะเธอเริ่มรู้แล้วว่าเธอกำลังจะโดนพี่ชายจอบจู้จี้คนนี้บ่นอีกครั้ง

“เพื่อนที่ Witherbloom ของเธออ่ะนะ?”

“ใช่แล้ว” Rowan ตอบพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ที่ทั้งคู่ใช้ร่วมกัน... แม้ครึ่งของ Rowan เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง จะไม่ต่างจากรังนกเลยก็ตาม

Will ลุกขึ้นจากโต๊ะของเขา ก่อนที่จะหันมาคุยกับ Rowan ต่อ “เธอทำการบ้านเรื่อง หลักจริยะศาสตร์แห่งการควบคุม Aether รึยัง?”

“แล้ว” Rowan ตอบห้วนๆ และเอาชุดฤดูหนาวของเธออกมา

“แล้วเตรียมตัวสอบวิชาของศาสตราจารย์ Onyx หรือยัง? เขาว่ากันว่ามันโคตรยากเลยนะ”

“หา!?!” Rowan แสดงอาการตกใจออกมา

“สอบ... ในอีกสองวัน” Will ย้ำประโยคเดิม

“อ๋อ จ้าๆ” Rowan ตอบแบบส่งๆ ไป

 

Will ที่จับอาการไม่ใส่ใจของน้องสาวได้ เขายิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่ ก่อนที่จะเปิดฉากบ่นน้องสาวตัวดีของเขาอีกครั้ง “นี่ ทำไมเธอไม่ตั้งใจหน่อยล่ะ Rowan ที่เราเข้ามาที่นี่ได้ มันถือเป็นสิทธิพิเศษสุดๆ เลยไม่ใช่เหรอ”

“อ๋อเหรอ นี่พี่กำลังจะบอกว่าฉันโง่เกินกว่า จะเข้าใจ ภาพรวม ของสิ่งที่เราต้องทำสินะ”

“Rowan พี่ไม่ได้หมายความแบ-” Will พยายามจะอธิบาย แต่ Rowan ก็ขัดจังหวะขึ้นมา

“ยังมีอีกหลายวิชาที่นายไม่ลงเรียนนะ ทำไมไม่ไปสมัครให้ครบเลยล่ะ” Rowan พูดด้วยความโกรธ และหงุดหงิด จนมันทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านเส้นผม และนิ้วของเธอ

Will ตกใจกับภาพที่เห็น เขาขยับถอยออกมา... ปากหนักจนไม่สามารถพูดอะไรได้ นอกจากเรียกชื่อเธอเท่านั้น

กระแสไฟฟ้าค่อยๆ สลายตัวลง ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของ Rowan ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความสับสน ก่อนที่จะกลายเป็นความอับอาย และเธอก็ข่มอารมณ์เหล่านั้นอีกครั้ง

“เธอโอเคมั้ย Rowan?” Will ถามน้องสาวของเขาด้วยความเป็นห่วง

ฉันไม่เป็นไร” Rowan ตอบ แล้วคว้าชุดสำหรับฤดูหนาวและเดินกระแทกส้นออกจากห้องไป

 

- กำหนดส่ง -

หลังจากเหตุการณ์ที่ Rowan ทะเลาะกับ Will ผ่านไปได้สองวัน

Will ก็ยังคงง่วนอยู่กับการหาคำตอบให้กับ -จริยศาสตร์แห่งการควบบคุม Aether- ที่ศาสตราจารย์ Onyx เป็นคนมอบหมายมา

และเขาก็ไม่รู้สึกว่ามันใกล้ความจริงขึ้นมาแต่อย่างใด

Will ที่รู้สึกเหนื่อยหน่าย ปล่อยให้ร่างของตัวเองไหลไปตามเก้าอี้ของ Biblioplex ที่เขานั่งอยู่ เอามือทั้งสองมาปิดหน้า

 

“ถ้ามีคนมาสาปให้ฉันกลายเป็นนิวท์หรืออะไรแบบนี้ก็ดีสิ... จะได้ไม่ต้องมาคิดอะไรให้เยอะวุ่นวาย” Will บ่นออกมา

 

Quint ผู้เป็น Loxodon หรือ มนุษย์ช้างที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Will เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือตรงหน้าของเขา

“ใช่เรื่องการเชื่อมต่อกันของ Aether รึเปล่า?” Quint ถามขึ้น

Will พยักหน้าเป็นคำตอบ “ฉันเกลียด Aether, ฉันเกลียดการเชื่อมต่อ... ฉันเกลียดเรื่องนี้ทั้งหมดนั่นแหละ”

“ก็... มันเป็นทฤษฎีที่เข้าใจยากอยู่แหละนะ” Quint แสดงความเห็นตามที่ Will คิด “ว่าแต่ นายลองถาม il Smar-”

 

Will ไม่ตอบ แต่ยกหนังสือเล่มหนึ่งที่เขากำลังอ่านอยู่ ให้เพื่อนของเขาได้อ่านชื่อจากปกของมัน

-บทความว่าด้วยการดัดแปลงวัตถุ-

มันเป็นคำตอบมากพอว่า ตอนนี้ Will ได้อ่านงานต่างๆ เกินขอบเขตของวิชาการควบคุม Aether ไปแล้ว ก่อนที่ Will จะกล่าวขอบใจสำหรับกำลังใจด้วยสีหน้า และท่าทางที่ไม่ดีขึ้นเลย

 

“เอาน่า เดี๋ยวนายก็คิดอะไรออกเองแหละ” Quint ยังคงให้กำลังใจเพื่อนของเขาต่อไป

 


Quint เพื่อนของ Will Kenrith
 

เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ กับความเงียบเชียบ มีเพียงเสียงพลิกหน้ากระดาษ แซมด้วยเสียงจิบชาเท่านั้น...

ก่อนที่ Quint จะส่งเสียงออกมา

 

“เฮ้ย... นี่มัน” Quint พูดขึ้น พร้อมๆ กับคุ้ยหาหนังสือเล่มอื่นๆ จากกองหนังสือข้างหน้าของพวกเขา “ฉันคุ้นๆ ประโยคนี้ มันต้องใช่แน่ๆ”

Quint หยิบหนังสือมาหนึ่งเล่ม ไล่สายตาไปแต่ละบรรทัดอย่างรวดเร็ว และเอาหนังสือสองเล่มมาวางข้างๆ กัน

“ฉันว่าแล้ว! Will นายดูสิ Arthelas ผู้สูงส่ง กับ Bairod ผู้มองหาเส้นขอบฟ้า คือคนคนเดียวกัน!”

แต่ Will ก็ไม่ได้ตอบออะไร เขาพยักหน้าไปหนึ่งที ส่วนการทำงานของสมองก็ยังติดอยู่กับการบ้านของศาสตราจารย์ Onyx เช่นเดิม

แต่ Quint ก็ไม่ได้สนใจอาการของ Will เขายังคงตื่นเต้นตามประสาเนิร์ดที่พึ่งแก้ทฤษฎีลึกลับของตัวเองได้ “ฉันว่าแล้ว สัญลักษณ์แห่งเวทย์อันนี้มันเหมือนกันเลย โคตรเจ๋ง! - นี่... นี่มันหมายความว่า เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของอาณาจักรใต้ดินอาจจะเป็นเรื่องที่แต่งใหม่ทั้งหมด หรือไม่งั้นก็อาจจะถูกเรียบเรี- อุ้ย!

 

Quint ตัดบทตัวเองด้วยแก้วชาในมือที่หกใส่หน้าหนังสือตรงหน้าเขา จนน้ำชากระเซ็นไปทั่ว

Will ถึงกับสะดุ้ง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตระหนก “เราจะทำไงกันดี! คุณ Isabough ได้กักบริเวณพวกเราที่บึงเป็นเดือนแน่ๆ”

ไม่หรอก... ถ้าเธอไม่รู้” Quint ตอบ และวางแก้วชาของเขาลง

“อย่ายกหนังสือขึ้นนะ มันเปียกแบบนี้มีหวังหมึกละลายเละเทะแน่!” Will ยังคงตระหนกไม่หาย

“ฉันรู้แล้วล่ะ... นายดูนี่” ปลายนิ้วของ Quint ส่งแสงเรืองๆ ออกมา เขาเอาปลายนิ้วข้างหนึ่งจุ่มลงไปในถ้วยชาของเขา ก่อนที่จะนำมันมาเตะที่หนังสือ และแล้ว ชาที่เปียกท้วมหน้ากระดาษ ก็ค่อยๆ จับตัวเป็นหยดลอยขึ้นมา พวกมันลอยกลับไปที่ถ้วยชาของ Quint อีกครั้ง เขาส่งยิ้มให้ Will

“นี่เป็นเวทย์เอาไว้ซ่อมแซมน่ะ พวกเรา Lorehold เอาไว้ใช้ตอนเจอซากโบราณวัตถุ”

Quint ยกแก้วชาของเขาขึ้นมาจิบอีกครั้ง Will เอามือไปลูบที่หน้ากระดาษเมื่อครู่ ก็พบว่ามันแห้งราวกับไม่เคยสัมผัสกับความชื้นมาก่อน

Will อุทานออกมาเบาๆ “เจ๋ง”

Quint ยักไหล่ “ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยเวทย์มนต์”

 

- การพบปะ -

Rowan นั่งทอดสายตามองไปที่ลาน Bow’s End จากโต๊ะของเธอ

โต๊ะที่เพื่อนๆ อีกสองคนอย่าง Auvernine และ Plink กำลังพูดคุยกันตามประสาสาวๆ

Rowan มาพบกับเพื่อนๆ ของเธอหลังเลิกเรียทุกๆ วันมาราว 1 สัปดาห์แล้ว

ก่อนที่เธอจะยกขวดแก้วที่ภายในบรรจุน้ำอัดลมขึ้นมาจิบ รสชาดของผลไม้เข้มข้นทำให้มันกลายเป็นเครื่องดื่มที่เธอโปรดปราน... สถานที่ ที่เธอโปรดปราน

 

“นี่ๆ ได้ยินเรื่องการประลองเวทย์เมื่อวานมั้ย อุปกรณ์การสอบของอาจารย์ Dinsley พังไม่เหลือชิ้นดีเลย” Plink พูดพลางเคี้ยวอาหารในปากไปด้วย “พวก Silverquil เผาทิ้งไปเลยน่าจะไม่ทำร้ายความรู้สึกของอาจารย์เขามากขนาดนั้น”

“ไม่รู้สึกหรอก ถ้าทำมันดีๆ” Rowan พูดพร้อมกับส่งยิ้มออกมา

“ฉันล่ะไม่เข้าใจ ทำไมพวก Silverquil กับ Prismari ถึงชอบตีกันขนาดนั้น รอให้ถึงงานประลองที่ Mage Tower แล้วจะจัดหนักขนาดไหนก็ได้แท้ๆ” Auvernine พูด “ฉันว่าพวกนี้ก็แค่อยากอวดของแหละ”

 

สาวๆ ก็หัวเราะชอบใจ ก่อนที่รอยยิ้มของ Rowan จะหุบลง

การประลองเวทย์มันเหมือนการปลดปล่อยแรงกดดันสำหรับเธอ... ตั้งแต่การเข้าไปยุ่งการประลองในวันแรกที่เธอและ Will มาถึง Strixhaven มันผ่านมานานพอที่จะทำให้ Rowan รู้สึกหงุดหงิด การประลองเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอ... และการพบเพื่อนที่ Witherbloom ทั้งสองก็เช่นกัน

แต่กับ Will การได้เข้ามาเรียนที่ Strixhaven เหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการมาที่นี่ไปแล้ว...

 

ราวกับใครเรียกหา เพียงแค่ Rowan คิดถึงพี่ชายของเธอ

Will ก็เดินเข้ามาที่ทางเข้าวิทยาเขต Witherbloom ในเวลานั้นพอดี เขามองหาอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะสบสายตากับ Rowan และเดินเข้าไปหาเธอ

 


Auvernine เพื่อนของ Rowan Kenrith
 

Rowan ถอนใจออกมา วางขวดน้ำอัดลมลง และบ่นพึมพัมด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายเต็มประดา “เยี่ยมไปเลย”

“หา!?” Plink หันไปที่ทางเข้าวิทยาเขตในจังหวะที่ Will เดินมาถึงที่โต๊ะของพวกเธอพอดี “อ่าว นี่พี่ชายเธอนี่! สวัสดี Will

Will พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะหันไปคุยกับ Rowan “ศาสตราจารย์ Onyx ประกาศผลสอบแล้วนะ”

Rowan ยักไหล่ “แล้ว?”

“เธอเกือบสอบตกนะ Rowan” Will กล่าว น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวขึ้น “พี่ไว้ใจว่าเธอจะทำได้โดยไม่ต้องมีคนช่วย”

“เอ้า ฉันก็ผ่านนี่” Rowan ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยหน่าย “ผ่านก็คือผ่าน มันไม่ใช่เรื่องของนายซะหน่อย”

“เรามีเวลาเป็นอาทิตย์เพื่อจะเตรียมตัวสอบ” Will ขมวดคิดของเขา “เธอน่าจะเข้าใจแก่นของมันอยู่แล้ว แต่ที่เหลือให้พี่ช่วยสอนก็ได้... ถ้าเธอไม่มัวมาคลุกอยู่กับเพื่อนเธอจนไม่เป็นอันเรียน... แล้วไหนจะเรื่องพลั-”

“ไปคุยข้างนอก” Rowan พูดสวนและเดินออกไปทันที

Will หันมามองเพื่อนของ Rowan ก่อนที่จะเดินตามน้องสาวของเขาออกไป

เมื่อเขาเดินมาถึง Rowan จับแขนของ Will เอาไว้ “นายจะทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าเพื่อนหรือไง”

“หมายความว่า... เพื่อนของเธอยังไม่รู้เรื่องที่เวลาเธอโกรธแล้วสายฟ้ามันจะออกมาเองสินะ” Will ส่ายหัวไปมา “Rowan... พี่บอกแล้ว... เรามาที่นี่เพื่อฝึกฝน และควบคุมพลังของเรา... เราไม่ได้มาเที่ยวเล่นนะ คำว่าตระกูล Kenrith มันมีความหมายกับเธอบ้างมั้ย”

“ไม่แล้วล่ะ Will” Rowan ตอบ “ไม่มีใครหน้าไหนที่นี่เคยได้ยินดาว Eldraine หรอก และฉันไม่ได้มาในฐานะของตัวแทนตระกูล Kenrith, ฉันคือฉัน!”

“แล้วเธอก็ได้แต่พร่ำบอกว่าไม่อยากเป็นอย่างแม่ของเรา” Will ประชดประชัน Rowan

“ว่าไงนะ!?” Rowan ตอบกลับด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโมโห

 

Will รู้สึกได้ว่ารอบตัวของเขาเกิดประจุไฟฟ้า “ใจเย็น Rowan” Will ต้องหาวิธีหยุดน้องสาวของเขา “พี่ไม่ได้หมายความอย่าง-”

“พูดออกมา Will, พูดมาสิว่าฉันเหมือนแม่!” Rowan ถอยออกมาเพื่อจะใช้พลังของเธอซัดไปที่ Will

ก่อนที่จะถูกขัดจังจากประตูของลาน Bow’s End ที่ถูกเปิดออก

Plink กับ Auvernine วิ่งเข้ามาหา Rowan ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “พวกเราได้สูตรปรุงยาแล้ว เรากำลังจะไปเอาของที่ Widdenshins กัน”

Rowan หันกลับมาส่งยิ้มให้เพื่อนของเธอ “เดี๋ยวตามไปนะ”

ทั้ง Plink และ Auvernine พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะออกเดินไป

เมื่อแน่ใจว่าทั้งคู่ไม่น่าจะได้ยินบทสนทนาแล้ว เธอหันมามอง Will รอยยิ้มของเธอหายไปใบหน้าแล้ว “เลิกยุ่งกับฉันเสียที Will... นายสั่งฉันไม่ได้แล้วนะ”

Will อยากจะตอบเธอ แต่คำพูดของเขาจุกอยู่ในลำคอ “ฉั-”

 

Rowan เดินสวน Will โดยไม่สนสิ่งที่พี่ชายของเธอจะพูดอีกแล้ว เธอวิ่งตามเพื่อนของเธอไปทันที

 

[แม่แท้ๆ ของ Will และ Rowan นั้น เป็นแม่มดที่ Eldraine เธอใช้เวทย์มนต์ของเธอลักพาตัว Algenus Kenrith (ผู้พ่อ)]
[ในช่วงที่เขากำลังทำภารกิจเพื่อเป็นกษัตริย์ของ 5 อาณาจักร]

[นั่นส่งผลให้ทั้ง Will และ Rowan ได้รับพลังเวทย์มนต์มาตั้งแต่กำเนิด]

[ส่วนเป้าหมายที่แท้จริงของแม่มดตนนั้น คือการใช้ Will และ Rowan ที่มีสายเลือดกษัตริย์มาทำพิธีบูชายัญ]
[แต่แผนการของเธอก็ถูกขัดโดย Linden ผู้ที่กลายมาเป็นภรรยาของ Algenus Kenrith ในภายหลัง]

 

- ความห่างเหิน -

หลังจากวันนั้น Will ก็แทบไม่ได้เจอหน้า Rowan อีกเลย

แม้ว่าสองพี่น้องจะใช้ห้องพักร่วมกันก็ตาม

เมื่อ Will ตื่น เขาก็จะพบว่า Rowan ออกจากห้องไปแล้ว มันเป็นแบบนี้ไปจนกระทั่งถึงเทศกาลประลอง ณ Mage Tower

Will ไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่เป็นไป เขารู้สึกเป็นห่วงน้องสาวของเขามากขึ้นทุกวัน

 

การประลองของสองวิทยาลัย ที่ทั้งมหาวิทยาลัยรอคอย... ศึกระหว่างวิทยาเขต Silverquil และ Prismari ได้มาถึง

 

[การประลอง ณ Mage Tower คือการดวลเวทย์มนต์ของสองวิทยาลัย แต่ละทีมประกอบไปด้วยผู้เล่น 5 คน และมาสคอทประจำวิทยาเขต 1 ตัว

เป้าหมายของเกม คือการขโมยมาสคอทที่จะอยู่ประจำหอคอยของแต่ละฝ่ายกลับมาที่หอคอยของตนเองให้ได้]

 

นักกีฬาจากทั้งสองวิทยาลัยวิ่งเข้าสู่สนาม พร้อมกับสาดเวทย์หลากสีสันเพื่อดึงดูดสายตาของผู้ชม ก่อนที่ Quint ที่นั่งข้าง Will จะตะโกนเชียร์ออกมา

“ไม่น่าเชื่อเลย! Wickel ใช้วิชายกแผ่นดิน 4 ชั้น! เขาทำมันได้ง่ายๆ เลยเหรอเนี่ยะ”

 

Will มองไปที่สนามตามที่ Quint พูด

เขาเห็นพื้นของสนามฝ่าย Prismari ถูกยกขึ้นมาเป็นแผ่นวงกลมขนาดใหญ่ มันตั้งฉากกับพื้น และกลายเป็นโล่กำบังตัวผู้ร่ายจากเวทย์มนต์ของอีกฝ่าย

นักกีฬาจากบ้าน Silverquil คนหนึ่งกระโดดหลบฉากเพื่อหามุมโจมตี เธอใช้เวทย์มนต์สร้างเพลิงสีดำ และใช้มันส่งร่างของเธอขึ้นไปกลางอากาศ เธอคว้าเอามาสคอทของทีม Silverquil ที่เรียกว่า Inkling ไว้ได้

กองเชียร์ส่งเสียงเชียร์เต็มที่ Will หันกลับไปถาม Quint แบบแซวๆ “ไอ่นี่ล่ะ ใช้วิชาอะไร”

“เอ่อ... ไม่รู้เฮะ อาจจะการจุดระเบิดของ Arnault ล่ะมั้ง?” Quint ขมวดคิ้วแต่ก็ตอบไป

 


ลานประลอง Mage Tower
 

ที่มุมอื่นของลานประลอง นักกีฬาที่เหลือก็คอยใช้เวทย์มนต์ของตนเองรบกวนฝ่ายตรงข้ามอยู่เรื่อยๆ

ภาพเหล่านี้ทำให้ Will หวนนึกไปถึงวันแรกที่เขาเข้ามาถึงที่นี่... วันที่เขา และ Rowan เข้าไปป่วนการปะทะกันของทั้ง Prismari และ Silverquil...

ในตอนนี้เขาได้ยินแค่เรื่องราวของ Rowan จากปากของเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ว่าเธอไปดวลกับคนนู้นคนนี้บ้าง หลังจากที่พวกเขาไม่ได้คุยกันตั้งแต่ที่ลาน Bow’s End

 

ก่อนที่ Quint จะพรวดพราดลุกขึ้นมา

“ไม่จริงน่า” สายตาของ Quint จดจ้องไปที่สนาม “มันไม่จริงหรอก”

Will มองกลับไปที่สนาม เขาเห็นผู้เล่นของ Prismari กำลังล้อมเข้าโจมตีผู้เล่นของ Silverquil ที่กำลังครองมาสคอทอยู่

พวก Prismari ใช้เวทย์มนต์เข้าโจมตีไปยัง Inkling ตัวนั้น มันเริ่มส่องแสงสีแดงวูบวาบตามสีของเวทย์มนต์ ก่อนที่เขี้ยวของมันจะเริ่มงอกออกมา และงับหัวผู้ครอบครอง

“โอ้ย!” เธอร้องออกมา เผลอทำให้ Inkling ของทีมหล่นลงจากหัวของเธอ ส่วนผู้เล่นของ Prismari ก็รีบวิ่งเข้าไปอุ้มมันมา

กองเชียร์ส่งเสียงโห่ร้องกระหึ่มลานประลอง

 

“ขโมยมาสคอทได้แล้ววว” Quint ตะโกนออกมา พร้อมๆ กับหันไปกอด และดีใจกับกองเชียร์คนอื่นๆ ที่นั่งข้างๆ

“เอ่อ... พวกเขาสะกดจิตมันเหรอ” Will ยังงงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่

“พวกเขาขโมยมาสคอทไปเลยต่างหาก มันเป็นเวทย์ง่ายๆ อ่ะ มันใช้กับพวกสัตว์ตัวแทนเท่านั้น แต่กว่าจะได้จังหวะร่ายก็สุดยอดอยู่ดีแหละ” Quint ตอบ

Will หันไปมองบรรยากาศรอบๆ ตัวเขา ทั้งคณาจารย์ หรือนักศึกษาที่มาคอยเชียร์ต่างเต็มไปด้วยความสุข และรอยยิ้มบนใบหน้า

จนเขาหันไปเจอ Rowan ที่นั่งห่างจากเขาไปไม่มาก... และเธอกำลังจ้องเขม็งมาที่เขาอยู่

 

- การปะทะ -

“ไปกันเถอะ” Rowan พูดขึ้น

“แต่เกมยังไม่จ-” Plink ยังพูดไม่จบประโยค เธอก็โดนศอกของ Auvernine กระทุ้งเข้าเบาๆ ก่อนที่จะเพยิศหน้าไปทางที่ Will ยืนอยู่

“อุ้ย” Plink เผลออุทานออกมา

“เธอน่าจะเข้าไปทักเขาซักหน่อยนะ” Auvernine บอกกับ Rowan

“อ๋อเหรอ?” Rowan ตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจ

“อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่เธอนะ” Auvernine แสดงความเห็นของเธอ

“ก็ได้” Rowan ตอบแบบตัดรำคาญ กอนที่จะเดินไปหา Will ที่กำลังเดินมาหาเธอเช่นกัน

“ไง” Will เกริ่นออกมาก่อน “เป็นไงบ้าง”

“นายก็รู้” Rowan ตอบ “สบายๆ”

“ยังคบกับเพื่อนที่ Witherbloom อยู่เหรอ?” Will ถาม และมองไปทางกลุ่มของ Plink และ Auvernine

“มันมีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไง?” Rowan ถามกลับ

“ไม่หรอก พี่แค่อดคิดไม่ได้ ว่าเธอเลือกผิดวิทยาเขตหรือเปล่า... เท่านั้นเอง”

“พี่หมายความว่าไง?”

“ก็... ดูเธอไม่ค่อยจะอยากเรียนตามหลักทฤษฎี, ส่วนพวก Witherbloom ก็เป็นนักเวทย์ที่สนใจเรื่องของพลังธรรมชาติ พวกเธอเลยไม่ค่อยจะเป็นห่วงที่เธอยังควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้น่ะนะ” Will อธิบายความเห็นของเขา

“ฉันควบคุมมันได้น่า” Rowan พูด คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันด้วยความโมโหอีกครั้ง “ไม่งั้นฉันได้เรียกสายฟ้ามาผ่านายตรงนี้แล้ว Will”

“ไม่ใช่ว่าเธอมัวแต่ไป ดวลพลัง จนไม่เหลือพลังมากพอจะปล่อยสายฟ้าหรอกเหรอ พี่รู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะฝึกควบคุมพลังของเธอหรอก” Will ประชด Rowan ทั้งๆ ที่เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี... แต่การที่ Rowan ไม่ยอมพบหน้าเขามาเป็นอาทิตย์ๆ มันก็ทำให้เขาอดเตือนน้องสาวของเขาไม่ได้

“ถ้าเธออยากจะประลองมากนัก ทำไมไม่อยู่ที่ Kylem ไปเลยล่ะ” Will ยังไม่หยุดปากของเขา

 

และแล้ว ประจุพลังสายฟ้าก็โอบล้อม Rowan อีกครั้ง... สิ่งที่ Will พูดคงก้าวข้ามขีดจำกัดความอดทนของ Rowan ไปแล้ว

 

“งั้นฉันจะให้นายเห็น ว่าฉันฝึกอะไรมาบ้าง!” ร่างของ Rowan ถูกห้อมล้อมไปด้วยสายฟ้ามากมาย

ก่อนที่ Will จะรู้ตัว ร่างของเขาก็กระตุกเกร็ง และลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นเสียแล้ว

“จะให้ฉันอยู่ที่ Kylem งั้นเหรอ!?! งั้นฉันก็จะให้นายตายตรงนี้!” Rowan ตะโกนพร้อมเรียกพลังของเธออีกครั้ง

“เฮ้!” Quint ตะโกนมาจากด้านหลัง เสียงของเขาทำให้ Will ได้สติอีกครั้ง

แม้ว่าร่างกายจะไม่ตอบสนองคำสั่งจากสมอง แต่พลังของ Will ยังสามารถใช้ได้อยู่ เขาส่งพลังเยือกแข็งไปเกาะขาของ Rowan หวังให้เธอหยุด...

 

ไอเย็นส่งออกมาจากลมหายใจของ Will นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ขยับได้ในตอนนี้

แต่ Rowan ก็ไม่หยุดเวทย์ของเธอ เธอเงื้อมือขึ้นสุดแขน หมายจะซัดสายฟ้าลงสู่เป้าหมายที่ขยับไม่ได้

ทว่าก่อนที่สายฟ้ามันจะก่อตัวเป็นรูปร่าง มือของเธอก็ถูกแช่แข็งจนสายฟ้าสลายไป Rowan ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

สิ้นเสียงนั้น ทั้งสนาม Mage Tower ก็เงียบลงทันที

ไม่มีเสียงเชียร์ใดๆ ไม่มีแม้แต่เสียงคนคุยกัน

Plink กับ Auvernine ถอยออกห่างสองพี่น้อง Kenrith นักศึกษาคนอื่นๆ แหวกทางเดินให้กับบุคคลต้นเสียงนั้น... เงามืดทอดบดบังร่างของ Will ที่นอนอยู่ที่พื้น

Will เริ่มขยับตัวได้ เขาแหงนหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะพบกับดวงตาประกายสีม่วงกับลังมองมาที่เขา...

ดวงตาของศาสตราจารย์ Onyx นั่นเอง

“พวกเธอกลับไปนั่งประจำที่” ศาสตราจารย์ประกาศออกมาอีกครั้ง “ส่วนเธอสองคน ตามฉันมา”

 

- กิจกรรมเสริม -

Will และ Rowan เดินตามศาสตราจารย์ Onyx ไปยังวิทยาเขต Witherbloom

ความมืดของเงาทำให้ภายในอาคารที่พวกเขากำลังเดินอยู่ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นจุดสังเกตได้เลย จะมีก็เพียงช่องว่างระหว่างกำแพงที่เหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างครอบครองอยู่ มันอาจจะเป็นแค่มอสทั่วๆ ไปก็เป็นได้

แต่สิ่งที่เด่นชัดก็คือกลิ่นอันอบอวน ที่ผสมปนเประหว่างกลิ่นของดอกไม้สด และดอกไม้ที่ร่วงโรย

และไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามในมหาวิยาลัย Strixhaven

คุณคงไม่อยากมีปัญหากับศาสตราจารย์ Onyx มากที่สุด... ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับตัวเธอ ยิ่งในวิทยาเขต Prismari แล้ว มีข่าวลือแย่ๆ เกี่ยวกับเธอเต็มไปหมด

ไม่ว่าจะเป็นเธอจับนักศึกษาไปดองไว้ หรือลงโทษด้วยการใช้นักศึกษาที่ทำผิดวินัยไปเป็นอาหารให้กับเห็ดกินเนื้อ... แต่สำหรับ Will แล้ว สิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือการโดนไล่ออก

ความคิดของ Will ก็จบลง พร้อมๆ กับห้องพักอาจารย์ที่เป็นจุดมุ่งหมาย

ศาสตราจารย์ Onyx ผายมือเชิญให้ทั้งคู่เข้าไปด้านใน เธอจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่างในห้อง แสงสีม่วงจากเทียนเริ่มทอแสงออกมา

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ศาสตราจารย์ Onyx ถามขึ้น

“ไม่มีอะไรค่ะ” Rowan พูดด้วยน้ำเสียงปกติ เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร “พี่น้องทะเลาะกันเฉยๆ ค่ะอาจารย์”

“เท่าที่ฉันรู้ การเอาสายฟ้ามาซัดใส่พี่น้อง มันไม่น่าจะเรียกว่าการทะเลาะกันเฉยๆ หรอกนะ” ศาสตราจารย์ Onyx พูดและส่งสายตาไปหา Rowan “เธอรู้มั้ย ว่าการบาดหมางระหว่างพี่น้องเนี่ย ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว ความเจ็บปวดจากเรื่องราวทั้งหมดมันไม่ใช่แค่การจากลา... ฉันบอกได้แค่ว่า คงจะมีแต่คนโง่เท่านั้น ที่จะทำให้มันไปถึงจุดนั้น”

Will สังเกตเห็นว่าน้องสาวของเขาเริ่มออกอาการไม่พอใจ เขากระแอมก่อนที่จะพูดออกมา “ทั้งหมดมันเริ่มที่ผมเองครับอาจารย์... ผมไปหาเรื่องเธอก่อน”

แม้จะรับรู้ได้ว่า สายตาของ Rowan จ้องมาที่เขา แต่ Will ก็ไม่ยอมหันไปสบตาเธอ

ศาสตราจารย์ Onyx มองไปที่ทั้งคู่ ก่อนที่เธอจะส่ายหัว และนั่งลงบนเก้าอี้ของเธอ

ท่าทีของเธอทำให้ Will รู้สึกได้ว่าเธอกำลังเหนื่อยล้าจากอะไรบางอย่าง

 

“มันมีกลุ่มคนที่หวังให้ที่นี่... สถานที่ที่หลายๆ คนเรียกมันว่าบ้าน ต้องตกอยู่ในอันตราย...” ศาสตราจารย์ Onyx พูดต่อ “ถ้าเรามามัวทะเลาะกันเอง กลุ่มคนเหล่านั้นคงจะทำงานง่ายขึ้นมาก”

“อาจารย์...” Will พูดขึ้นมา “อาจารย์กำลังพูดถึงอะไรครับ?”

ศาสตราจารย์ Onyx แหงนหน้าขึ้นมา มองตาของ Will ก่อนที่จะพูดต่อไป “เธอเคยได้ยินชื่อ Oriq มั้ย?”

“พวกขี้แพ้ ที่สอบไม่ผ่าน” Rowan พูดแทรกขึ้นมา “ไม่งั้นก็พวกปอดแหกที่หนีออกไปใช่มั้ยคะ?”

ศาสตราจารย์ Onyx ส่งเสียงหัวเราะในลำคอ แต่มันเป็นการหัวเราะที่ไม่ได้มาจากมุขตลกของ Rowan แต่อย่างใด มันแสดงความกังวลออกมา “นั่นก็ใช่... แต่เราก็ไม่ควรประมาทพวกเขา... เพราะมหาวิทยาลัย Strixhaven ไม่ใช่สถานที่เดียว ที่จะเรียนรู้เวทย์มนต์ในดาวดวงนี้”

Will ได้ยินประโยคนั้นแล้ว เขาก็ขยับร่างนั่งตรงหลังไม่ติดเบาะทันที ดาวดวงนี้?... หรือว่า ศาสตราจารย์ Onyx จะเป็น...

ทว่า เมื่อเขามองไปที่ศาสตราจารย์ ก็พบเพียงรอยยิ้มของเธอเท่านั้น

ก่อนที่ Rowan จะโพล่งออกมาอีกครั้ง "ถ้าพวก Oriq จะโจมตีมหาวิทยาลัย Strixhaven จริงๆ ล่ะก็ พวกคณาจารย์ต้องทำอะไรซักอย่างอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

Rowan เธอคงจะไม่ได้ตั้งใจฟังคำบอกใบ้ของศาสตราจารย์ Onyx มันทำให้เธอยังคงสนใจเรื่องของ Oriq เหมือนเดิม

“อาจจะช่วย” ศาสตราจารย์ Onyx ตอบ “หรืออาจะไม่ คำถามที่น่าสนใจจริงๆ คือ พวกเธอจะทำยังไงกันมากกว่า”

 

- เส้นทาง -

อากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ปอดของ Will อย่างเต็มที่อีกครั้งที่พวกเขาเดินพ้นวิทยาเขต Witherbloom

Rowan หันมาร่ำลา Will ก่อนที่เธอจะเดินแยกไปอีกทาง แต่ Will ก็ห้ามเธอไว้

 

“นี่เธอไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกเราเมื่อกี้เหรอ? เราต้องทำอะไรบางอย่างแล้วนะ” Will พูดขึ้น

“ทำอะไรเล่า?” Rowan ถามกลับมา “ที่นี่มันมหาวิทยาลัยของพวกเขานะ ให้เขาดูแลกันเองสิ”

“ถ้ามันยังไม่เพียงพอล่ะ?” Will ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยหน่าย “คณาจารย์ที่นี่ไม่ได้มีจำนวนมากพอที่จะปกป้องนักศึกษาทุกคนหรอกนะ Rowan เราต้องหาวิธีดูแลตัวเอง และช่วยปกป้องเพื่อ-”

“พอแล้วน่า Will” Rowan ขัดจังหวะพี่ชายของเธอ “ฉันต้องบอกนายอีกกี่ครั้ง ว่าที่นี่ไม่ใช่ Eldraine พวกเราไม่ใช่บุตร หรือบุตรีของกษัตริย์อีกแล้ว, เราไม่สามารถ” Rowan โบกมือของเธอ “สั่งให้ปัญหามันหายไปเหมือนที่ Eldraine หรอกนะ”

“การเป็นบุตรของกษัตริย์ก็ไม่ได้ทำให้เรารอดจากความตายที่ Eldraine นะ Rowan” Will พยายามอธิบายจุดยืนของเขา “อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมี Biblioplex ที่จะช่วยพัฒนาพวกเรา... ไม่ให้เราต้องรอคนอื่นมาช่วยเหมือนที่ Eldraine ไง”

 

ร่างของ Rowan สั่นเทิ้ม เธอกัดฟันของเธอ... มันเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด ในครั้งที่ Oko สาปให้ราชา Kenrith พ่อของเธอกลายเป็นกวาง และต้องถูกสังหารลงโดยที่เธอไม่สามารถต่อกรกับมันได้เลย

“นายไปคุ้ยหนังสือตามที่นายต้องการได้เลย Will” Rowan พูดขึ้น “ฉันจะไปเตรียมตัวในแบบของฉัน”

Will ทำได้แค่ถอนใจ ในขณะที่ Rowan เดินจากไป ในแบบของเธอ... อีกแล้วสินะ

 

- สบตา -

Kasmina นั่งอยู่พิงต้นไม้ที่ลานนอกวิทยาเขต นกฮูกของเธอยังคงบินวนไปมาด้านหน้า Biblioplex

เบื้องล่าง เธอเห็นสาวน้อย Kenrith (Rowan) กำลังฝึกสร้างสายฟ้าที่สนามหญ้า โดยมีเพื่อนของเธอในชุด Witherbloom อีกสองคนคอยเป็นกำลังใจให้

แม้ว่าสาวๆ จะพูดคุยกัน แต่จากระยะที่นกฮูกของเธอบินอยู่ มันก็ไม่สามารถจับใจความได้

Kasmina ย้ายการเชื่อมต่อของเธอไปที่นกฮูกอีกตัวหนึ่ง มันกำลังบินอยู่เหนือเขตภูเขาหินดินแดง

เธอเห็น Lukka ยืนอยู่กับสายลับ Oriq

สายลับคนนั้นหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากใต้ผ้าคลุม ก่อนที่จะส่งให้กับ Lukka

Kasmina สั่งให้นกฮูกของเธอขยับไปหามุมที่สามารถมองเห็นได้ชัดๆ และมันก็คือหน้ากากสีเงิน รูปร่างคล้ายกับกระโหลกของมนุษย์

Lukka รับหน้ากากนั้นมา ใบหน้าของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง สีผิวของเขาเข้มขึ้น หูยาวออกมาจนรูปร่างคล้ายกับจิ้งจอกคู่หูของเขา... สายลับ Oriq เดินจากไป ก่อนที่ Lukka จะหันมามองนกฮูกของ Kasmina ราวกับเขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังมองอยู่

Kasmina สะดุ้งด้วยความตกใจ เธอรีบสั่งให้นกของเธอบินออกมาจากบริเวณนั้นทันที

 

- เสียสละ -

Rowan นั่งอยู่ในห้องของ Auvernine

Rowan จ้องมองสิ่งที่ Auvernine กำลังทำ แต่ Rowan ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมันมากนัก เพราะการฝึกหนักตลอดสัปดาห์ของเธอทำให้เธอเหนื่อยล้าเกินไป

Rowan พยายามฝึกการส่งพลังตลอดทั้งสัปดาห์ แม้มันจะทำให้เธอรู้สึกได้ว่าการใช้พลังของเธอมันง่ายขึ้น... แต่มันก็ไม่มีการพัฒนามากพอ

ก่อนที่จะเสียงกรีดร้องเล็กๆ มาดึงให้ Rowan ออกจากภวังค์ความคิดของเธอ

เธอหันไปมอง Auvernine อีกครั้ง เธอเห็นว่า Auvernine กำลังคีบเอาหนอนตัวอ้วนพีออกมาจากโหลแก้ว

 

“นั่นมันอะไรอ่ะ?” Rowan ถามเพื่อนของเธอ

Auvernine ยังไม่ละสายตาจากหนอนตัวนั้น เธอค่อยๆ วางมันลงที่จากเหล็กตรงหน้า “ตัวกินเกลือทั่วไปน่ะ แต่หานานมากเลยนะ กว่าจะได้ตัวใหญ่ขนาดนี้”

“แล้วเอามาทำอะไ-” Rowan ยังไม่ทันจบประโยคของเธอ Auvernine ก็เริ่มร่ายเวทย์มนต์ของเธอ

 

Auvernine เอามือวางไว้เหนือหนอนตัวนั้น

มันหยุดนิ่งไป ดวงตาสีดำที่อยู่รอบๆ ตัวของมันเบิกโพลง เสียงร่ายเวทย์ของ Auvernine ดังขึ้นๆ เจ้าหนอนตัวนั้นลอยขึ้นมาจากจาน ตัวของมันเริ่มบิดไปมา พลังงานเริ่มไหลซึมออกมาจากตัวตัวของมัน

Rowan เอามือของเธอมาปิดปาก ในขณะที่พลังงานของเจ้าหนอนตัวอ้วนนั้นไหลออกมาจากตัวของมันไปยังขวดยาที่ Auvernine ปรุงเตรียมไว้

น้ำยาสีม่วงเข้มค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นสีแดงสด

เสียงสวดเวทย์มนต์ของ Auvernine จบลง เจ้าหนอนร่วงลงมานอนแน่นิ่งอยู่กับจานเหล็กอีกครั้ง ท่าทางของมันเหมือนสัตว์ใกล้ตาย มันหายใจอย่างรวยริน

 


การปรุงยาของ Auvernine

 

Rowan บ่นออกมาเบาๆ “น่าสยดสยองชะมัด”

“นิดหนึ่งแหละ” Auvernine ตอบเพื่อนของเธอพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

เธอหยิบขวดยาที่มีน้ำยาสีแดงสดขึ้นมามองใกล้ๆ “ยาตัวนี้มันต้องใช้พลังมากเกินกว่าที่สมุนไพรจะให้ได้... แต่ถ้าฉันทำมันสำเร็จ มันจะเป็นยาที่ช่วยเหลือผู้คนได้อีกมากมาย... บางครั้ง การเสียสละเพื่อส่วนร่วมก็เป็นเรื่องจำเป็นอยู่นะ เธอว่ามั้ย?”

Rowan ไม่ตอบคำถามนั้น ตาของเธอยังจับจ้องไปที่หนอนตัวเดิม... การเสียสละ การบูชายัญ พิธีกรรมที่แม่แท้ๆ ของเธอสร้างแผลเป็นในจิตใจของเธอเอาไว้ย้อนกลับขึ้นมาอีกครั้ง...

 

- ความแตกต่าง -

Rowan มาเจอ Will ที่กำลังง่วนอยู่กับหนังสือกองโตที่ Biblioplex

เขาอ่านหนังสือ พร้อมกับปากที่พึมพำอะไรบางอย่าง จน Rowan เดินเข้ามาถึง

 

“ฉันไม่เรียกที่นายกำลังทำว่าฝึกฝนหรอกนะ” Rowan ทักทายพี่ชายของเธอ

Will แหงนหน้าขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ... Rowan ที่ Biblioplex สุดน่าเบื่อของเธอเนี่ยนะ?

ก่อนที่เขาจะก้มหน้ากลับไปอ่านหนังสือตรงหน้า และเริ่มพูดคุยกับเธอ

“ถ้าพวก Oriq มันเป็นอันตรายจริงๆ ลำพังแค่เวทย์มนต์ที่เราใช้ได้อาจจะไม่เพียงพอสำหรับต่อกรกับพวกนั้นก็ได้นะ” Will พูดโดยยังไม่ละสายตาจากหนังสือ “พี่คิดว่า เราน่าจะเพิ่มความหลากหลายในวิชาเวทย์มนต์ของเรา”

“หรือไม่ก็แค่อัดพลังเพิ่มเข้าไปในเวทย์ที่เรามี” Rowan ตอบในมุมของเธอ

 

Will ไม่ได้ตอบน้องสาวของเขา แต่ยังคงอ่านหนังสือต่อไป

Rowan ที่ไม่ได้คำตอบจากพี่ชายของเธอ มองไปรอบๆ ห้องสมุดแห่งนี้ ก่อนที่เธอจะพบกับนักศึกษาจากวิทยาเขต Prismari คนหนึ่ง ข้างๆ เขามีแมงกะพรุนเวทย์มนต์กำลังลอยอยู่

มันก่อรูปร่างจากน้ำ และเวทย์มนต์ล้วนๆ มันมีหน้าที่เพียงส่องแสงให้ความสว่างเท่านั้น

Rowan นึกถึงความน่าสยดสยองของการปรุงยาที่ Auvernine ทำในห้องของเธอ... และมันคงเป็นเวลาที่เธอจะก้าวข้ามความรู้สึกนั้นไป

Rowan ค่อยๆ ย่องไปทางแมงกะพรุนตัวนั้น Will ละสายตาจากหนังสือของเขา และรับรู้ได้ว่าน้องของเขากำลังจะทำอะไรแปลกๆ อีกครั้ง

 


Will และ Rowan Kenrith
 

“Rowan จะทำอะไรน่ะ” Will เรียก Rowan

ทว่า Rowan ไม่ได้ตอบอะไร เธอยกนิ้วขึ้นมาที่ปากของเธอ เป็นสัญลักษณ์ให้ Will เงียบก่อน

Rowan จ้องไปที่แมงกะพรุนตัวนั้น เธอตั้งสมาธิเพื่อดึงพลังเวทย์มนต์ที่คอยพยุงร่างของมันออกมา

สายฟ้าส่งออกจากปลายนิ้วของเธอไปยังแมงกะพรุนตัวนั้น สายฟ้าของเธอดึงเส้นพลังเวทย์ออกมาจากร่างของมัน ก่อนที่มันจะร่วงลงพื้น กลายเป็นเพียงแอ่งน้ำเล็กๆ

พลังงานของแมงกะพรุนตัวนั้นอยู่ในอุ้งมือของ Rowan มันหมุนเวียน และกลายเป็นพายุสายฟ้าเล็กๆ ในมือของเธอ ก่อนที่มันจะระเบิดออก

ส่งผลให้ผมของ Rowan ชี้ตั้งทันที นักศึกษาคนนั้นตกใจจนตกจากเก้าอี้

เขารีบเก็บข้าวของ และเดินพร้อมๆ กับจ้องเขม็งมาที่ Will

 

“Rowan” Will กระซิบเรียกน้องสาวของเขา ที่แม้ตอนนี้เขาอยากตะโกนใจจะขาด แต่ด้วยสถานที่ที่เขาอยู่ ทำให้เขาทำได้แค่ตะเบ็งเสียงแหบๆ ออกไปเท่านั้น “เธอไปเที่ยวดึงพลังออกมาจากของของคนอื่นไม่ได้นะ! ที่สำคัญ เรายังไม่ได้เรียนวิชาถ่ายทอดพลังเลย เดี๋ยวเธอก็เจ็บตัว หรือทำให้คนอื่นเป็นอันตรายหรอก!”

“Will... นายรู้มั้ย ว่าพวก Oriq ไม่สนหรอกว่านายจะต้องเรียนอะไรมาก่อนหลัง” Rowan ตอบพี่ชายของเธอ... และเป็นครั้งแรกที่ Will รู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของน้องสาวของเขา เต็มไปด้วยความสงบ “พวกมันจะทำทุกอย่างที่ต้องทำ แปลว่าเราก็ควรจะทำแบบเดียวกัน”

“การมีพลังพวกนี้มันต้องมีความรับผิดชอบนะ Rowan” Will เข้าสู่โหมดพี่ชายสอนน้องสาวอีกครั้ง “ถ้าเธอไม่รับผิดชอบผลที่ตามมา... สุดท้ายเราอาจจะใช้พลังพวกนี้ไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน... อำนาจมืดที่ยั่วยวนใจ... เหมือนแม่ของเรา... เหมือน Oko ไง”

“เหรอ” Rowan ตอบด้วยเสียงเหนื่อหน่าย ก่อนที่น้ำเสียงของเธอจะเต็มไปด้วยความโมโหอีกครั้ง “สิ่งที่ฉันเรียนรู้คือถ้าเราไม่กลัวที่จะแหกกฎ อะไรๆ ก็จะง่ายขึ้นมาก ขอให้โชคดีกับทฤษฎีของนายนะ Will”

เมื่อ Rowan พูดจบเธอก็เดินออกไปทันที ทิ้ง Will ไว้ให้ตอบคำถามที่ตอบได้ยาก ทั้งเรื่องแสงจากฟ้าแลบ และคราบน้ำตรงพื้นกับบรรณารักษ์ของห้องสมุด

 

- นักล่าจอมเวทย์ -

นกฮูกตัวหนึ่งโฉบลงมาเกาะคฑาของ Kasmina แต่เธอก็ยังคงนั่งนิ่งๆ และสายตามองออกไปที่เส้นขอบฟ้าเช่นเดิม

เงาของร่างร่างหนึ่งกำลังเดินมา เงาของเขาทอดยาวจากแสงอาทิตย์ที่สาดมาจากด้านหลัง

เงาของเขาทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงเครื่องแต่งกายที่เขาสวมใส่ รวมถึงเงาของจิ้งจอกอีกตัวที่เดินมาพร้อมๆ กัน และมันก็โดดเด่นมากพอที่จะทำให้ Kasmina รับรู้ถึงผู้มาเยือนได้ทันที

 

“มันน่าเสียดายที่นายตกต่ำถึงขนาดนี้ หน่วยรบของนายจะรู้สึกยังไง ที่สุดท้ายแล้วหัวหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นแค่เบี้ยรับใช้ของคนอื่น”

“ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่สนใจหรอก” Lukka ตอบมา “ครึ่งหนึ่งของหน่วยรบตายไปหมดแล้ว ส่วนอีกครึ่งที่เหลือก็เป็นพวกที่รอจะแทงข้างหลัง”

 

[Lukka เคยเป็นทหารที่ Ikoria โดยกลุ่มมนุษย์ในดาวนั้น จะต่อกรกับเหล่าสัตว์นักล่าขนาดยักษ์ในดวงดาว]

[นอกจากนั้น ดาว Ikoria ยังมีกลุ่มมนุษย์ที่สามารถใช้พลังของตนเองสื่อสารกับสัตว์ป่าได้ พวกเขาถูกเรียกว่า Bonder]
[และพวกเขาจะถูกกีดกันออกจากเมือง เพราะคนส่วนใหญ่รังเกียจสัตว์ป่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว]

[Lukka บังเอิญได้รับพลังการเป็น Bonder โดยมันแลกมากับการที่หน่วยรบของเขาที่ถูกสัตว์ร้ายที่เขาเชื่อมโยงได้ภายหลังสังหาร]
[
ดังนั้น ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ จะรังเกียจเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร]

 

“ว่าแต่เธอเอง ส่งนกปลอมๆ พวกนี้มาตามฉันนานแค่ไหนแล้ว” Lukka ถาม Kasmina ไป

“นานพอที่จะเห็นว่าเส้นทางที่นายเลือกเดิน จะยิ่งทำให้นายเจ็บปวด” Kasmina ตอบด้วยเสียงอันเย็นชา “เพื่อตัวของนายเอง และเพื่อคนอื่นๆ ฉันคงปล่อยให้นายทำสิ่งที่ต้องการไม่ได้”

“เลิกสอนให้ข้าใช้ชีวิตได้แล้วน่า” Lukka กัดฟันพูด “และข้าเอง ก็ไม่ใช้เบี้ยของใคร ไอ้พวกนักเวทย์ที่แสนจะภูมิใจกับมหาวิยาลัยยิ่งใหญ่ที่สุด มันก็แค่พวกหลงตัวเอง พวกบ้าอำนาจที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องก้มหัวยอมให้กับมัน ข้ามาเพื่อจะให้พวกมันได้รู้ ว่าพวกมันน่ะ คิดผิด!”

“ฉันคาดหวังว่าจะได้นายมาเป็นพันธมิตรนะ Lukka... พรสวรรค์ของนายจะช่วยเหลือส่วนรวมได้อีกมากมาย” Kasmina พูดขึ้น ก่อนที่จะถอนหายใจ “น่าเสียดาย ที่ฉันประเมินนายสูงไป”

 

ก่อนที่ Lukka จะได้ทำอะไร นกฮูกของ Kasmina ก็บินขึ้นฟ้า และสะบัดปีกไปที่จิ้งจอกของเขา

ลมพายุเข้าล้อมตัว Mila จิ้งจอกของ Lukka ทันที เวทย์นั้นล้อมตัวของจิ้งจอกจนกลายเป็นบอลวงกลม

Kasmina ไม่รอจังหวะใดๆ เธอผสานเวทย์โจมตีด้วยเคียวลมล่องหนไปที่ Lukka ทันที

ทว่า Lukka ก็สามารถหลบมันได้ ส่วน Kasmina ก็ไม่รอช้า เธอสะบัดแขนของเธอ เพื่อส่งเคียวลมออกไปโจมตีอีกครั้ง

Lukka กลิ้งหลบไปข้างๆ เขาดึงดาบออกมาจากซอง กระโจนเข้าโจมตี Kasmina ในจังหวะที่เธอยังไม่สามารถโจมตีได้

Kasmina ใช้คฑาของเธอรับการโจมตีของ Lukka เอาไว้ได้ ดวงตาของ Kasmina เปลี่ยนไปเป็นสีเงินอีกครั้ง มันแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังรวบรวมพลังเพื่อใช้เวทย์มนต์อีกครั้ง

Lukka ม้วนตัวหลบออกมา ก่อนที่จะโจมตีเข้าไปที่ Kasmina ดาบของเขาไม่ได้ทำให้ Kasmina บาดเจ็บ แต่ก็มากพอที่จะทำให้เธอเสียจังหวะ

 


Lukka ปะทะ Kasmina
 

“ไอ้พวกมังกร” Lukka คำรามด้วยความโกรธแค้น “ไอ้พวกผู้พิทักษ์มังกร... มันใช้พลังของมันทำให้ผู้คนเกรงกลัว... แม้แต่กับคนที่ไม่รู้จักอย่างข้า... พวกมันไม่ได้ล่าแค่ Oriq พวกมันล่าทุกคนที่อยากจะใช้เวทย์มนต์ที่พวกมันไม่อยากให้ใช้”

Kasmina ตอบโต้ด้วยการกางมือของเธอออก มันเกิดโล่เวทย์มนต์สีฟ้าขึ้นมาระหว่างตัวของเธอกับ Lukka “นายต้องมองข้ามความเจ็บปวดส่วนตัวไปซะ Lukka, นายคิดว่า Extus จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่นายมีปัญหาได้เหรอ? นายคิดว่ามันจะแบ่งปันพลังที่มันได้มาให้นายหรือไง?”

“ข้าไม่สนหรอก ถ้าสุดท้ายแล้ว Extus มันจะทำลายล้างทุกอย่าง!” Lukka ตอบพร้อมๆ กับพยายามทุบโล่ป้องกันของ Kasmina

 

Kasmina เดินหน้าบีบพื้นที่ และด้วยโล่เวทย์มนต์ของเธอ Lukka ก็ทำได้แค่ถอยไปพลาง ใช้ดาบทุบไปพลาง

และเพียง Kasmina พลิกฝ่ามือ เธอก็ยิงแสงออกมา ส่งให้ Lukka ที่ไม่ทันระวังตัวกระเด็นไปชนกับกรงขังจิ้งจอกของเขา Kasmina เดินเข้ามาและใช้คฑาของเธอจ่อไปที่คอของ Lukka

 

“ยอมแพ้ซะ... มันจบแล้ว Lukka” Kasmina บอกกับ Lukka ที่ยังนั่งอยู่กับพื้น

“จบงั้นเหรอ” Lukka พูด ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “มันพึ่งเริ่มต้นต่างหาก!”

 

Kasmina นิ่งไป เพราะเธอต้องใช้สมาธิกับการต่อสู้เมื่อครู่ ทำให้เธอไม่ทันระวัง และหยุดการเชื่อมต่อกับนกฮูกของเธอ ซึ่งนั่น ก็มากพอจะเปิดโอกาสให้แผนของ Lukka ได้เริ่มต้นขึ้น

Kasmina ประสานจิตกับนกฮูกของเธออีกครั้ง ภาพที่เธอเห็นทำให้เธอสั่นจนสันหลังวาบ...

 

“ข้าไม่ได้มาเพื่อเอาชนะแก” Lukka พูดขึ้น “ข้าไม่โง่ขนาดจะฝืนเอาชนะแกหรอก... แต่ข้ารู้ว่าพวกมันทำได้”

 

พื้นดินบริเวณที่พวกเขายืนอยู่เริ่มสั่นสะเทือน ที่เส้นขอบฟ้าปรากฏการเคลื่อนไหวของฝูงสัตว์จำนวนมากมาย

ฝูงแมลงที่หุ้มเปลือกแข็งขนาดเท่าๆ กับมนุษย์ เปลือกสีเข้มของพวกมัน ตัดกับแสงสีม่วงที่ส่องออกมาจากร่างกายของมัน

“Mage hunters...” Kasmina ส่งเสียงในคอของเธอ “แกทำอะไรลงไป”

“ทำอะไรงั้นเหรอ...” Lukkaพูดพร้อมกับบ้วนเลือดออกมาจากปากของเขา แต่กลับส่งยิ้มเปื้อนเลือดออกมา “เราพึ่งเริ่มต่างหาก”

เหล่าปีศาจ Mage hunter ที่ถูกสร้างเพื่อล่าจอมเวทย์คืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ Kasmina หลับตาลง เธอใช้สมาธิไปกับการมองหาดาวดวงอื่น ขนนกสีขาวออกมาล้อมรอบเธอ ก่อนที่เธอจะ Planeswalk ออกไป

 

- การเริ่มต้น -

Lukka ลุกขึ้นยืน จัดแจงเสื้อผ้าที่ยับเยินของเขา ก่อนที่จะมีอีกร่างเดินมาข้างๆ เขา

 

“เจ้าแน่ใจว่าสามารถควบคุมพวกมันได้ใช่มั้ย” Extus ผู้นำของเหล่า Oriq นั่นเอง “ไม่เคยมี Oriq คนไหนสามารถควบคุมพวก Mage hunter ได้มากขนาดนี้มาก่อน”

Lukka พยักหน้า “ข้าไม่ใช่นักเวทย์ของ Oriq”

 

เบื้องหลัง Extus ก็ตามมาด้วยสายลับ Oriq ที่เหลือ พวกเขายืนรอคำสั่งจากหัวหน้าของพวกเขา

Extus พยักหน้า และตะโกนออกมา “เริ่มบุกได้!”