URZA

"เราสร้างสิ่งที่สมบูรณ์ ออกมาจากส่วนประกอบที่ไม่สมบูรณ์ได้"

 

Urza เป็น Planeswalker เผ่าพันธ์ุมนุษย์ เพศชาย ในช่วงก่อนที่เขาจะเป็น Planeswalker เขาเป็นนักประดิษฐ์ ซึ่งมีความชำนาญไปทางชุดมานาสีฟ้า โดยหลังจากเขา Spark เชื่อว่าเขาสามารถเข้าถึงแหล่งมานาสีอื่นๆ ได้จนครบทั้ง 5 สี และอาจจะแลกมาด้วยสติของเขาที่ออกไม่คงที่เท่าใดนัก

Urza เอง เป็น Planeswalker ในช่วงก่อน The Great Mending ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Planeswalker ทุกๆ คน จะมีพลังมหาศาลดุจดั่งพระเจ้า ซึ่งตัว Urza เองก็เช่นกัน

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องราวของเขา ทำให้นักประวัติศาสตร์ยุคหลัง ต้องเรียกปีที่ผ่านไปในประวัติศาสตร์หลังจากเขาถือกำเนิด ด้วยปี A.R. หรือ Argivian Reckoning เลยทีเดียว

 

- เรื่องราวในวัยเยาว์ -

Urza เกิดในครอบครัวของผู้สูงศักดิ์ในเมือง Argive ซึ่งอยู่ในเขต Terisiare ของ plane Dominaria เขาเกิดในวันแรกของปี และในช่วงท้ายปี Mishra น้องชายของเขาก็ถือกำเนิดขึ้นมา

 

แม่ของทั้งคู่เสียชีวิตลงตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็กมากๆ และพ่อของทั้งคู่ก็แต่งงานใหม่

แม่เลี้ยงของทั้งคู่ ไม่ได้ใยดีความเป็นอยู่ของทั้งคู่เลย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าใดนัก เพราะทั้งคู่ก็ยังมีพ่อคอยดูแลอยู่...

จนกระทั่งย่างเข้าขวบปีที่ 10 พ่อของพี่น้องก็เกิดป่วยขึ้นมา และพ่อของทั้งคู่ ก็เลือกที่จะส่งให้ลูกของตนเองได้ไปประสิทธิ์ประสาทวิชา กับเพื่อนเก่าของเขา... Tocasia ผู้เป็นนักโบราณคดี


Mishra น้องชายของ Urza

และถ้ายังจำกันได้ เรื่องราวของ Urza นั้น เกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวของอารยธรรม Thran นับพันๆ ปี… 

ซึ่งภายในการดูแลของ Tocasia ที่เป็นนักโบราณคดี ทั้งคู่ก็ต้องได้ศึกษาซากอารยธรรม รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ของอารยธรรม Thran อยู่เสมอๆ

แม้ว่าตัว Urza เองจะไม่ได้มีความชื่นชอบในการศึกษาภาคสนามเท่าใดนัก แต่เขาเองก็มีความสามารถในการทำความเข้าใจสิ่งประดิษฐ์ของ Thran ได้อย่างคล่องแคล่ว

ทางฝั่งของ Mishra เองก็ไม่ได้ด้อยกว่า Urza เขาเองก็มีความชำนาญในการสร้าง และทำความเข้าใจสิ่งประดิษฐ์ไม่น้อยไปกว่า Urza ผู้เป็นพี่เลย 

เพียงแต่ว่า Mishra นั้นชอบที่จะลงไปอยู่ที่ไซด์งาน และสนุกกับการได้พบปะพูดคุยกับเหล่านักโบราณคดีคนอื่นๆ เท่านั้นเอง

 

จนกระทั่งเส้นทางแห่งการศึกษาหาความรู้ของทั้งคู่ ได้นำพวกเขามาถึง Cave of Koilos ถ้ำที่เคยเป็นสถานที่เก็บซ่อนตัวของเหล่า Phyrexian เพื่อทำสงครามกับชาว Thran

ชาว Phyrexian นั้น ต่างปรับเปลี่ยนร่างกายของตนเองให้เป็นจักรกล เพื่อรักษาชีวิตจากอาการป่วยที่กำลังกัดกินร่างกายของพวกเขา
จึงทำให้ที่ถ้ำแห่งนี้ เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าที่หลงเหลือมาจากยุคของ Thran
 


ถ้ำแห่งความลับ
 

ทั้งคู่เดินไปเจอกับเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง ท่ามกลางเศษซากสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ มันมี Powerstone สองก้อนคอยให้พลังงานอยู่... มันคือประตูมิติระหว่าง Dominaria กับ Phyrexia นั่นเอง ซึ่ง Powerstone มันกำลังให้ป้อนพลังงานให้ประตูแห่งนี้ปิดตัวลง

กระนั้นหน้าที่ของนักโบราณคดีก็คงไม่พ้นการสำรวจสิ่งประดิษฐ์โบราณนี้… 

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่นั้น เครื่องจักรเครื่องนี้ก็ระเบิดขึ้นมาเฉยๆ...

 

ร่างของทั้ง Urza และ Mishra กระเด็นไปคนละทิศละทาง... ทั้งคู่หมดสติไปชั่วครู่

ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา พร้อมกับศิลาในมือ

 

Urza เอง เก็บศิลาที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ มีพลังเพิ่มขึ้น เขาเรียกมันว่า Mightstone

ส่วน Mishra ก็ได้ศิลาอีกก้อน ที่สามารถดึงพลังจากสิ่งอื่นๆ ให้ลดลง มันถูกเรียกว่า Weakstone
 

   
ศิลาทั้งสองก้อน
 

ทั้งคู่ต่างต้องการศิลาของอีกฝ่าย เพื่อนำมาใช้ศึกษา… แต่ทว่า มันเกิดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน

Urza ก็กลัวว่า Mishra จะนำศิลาไปทั้งสองก้อน แล้วอาจจะได้พลังที่มหาศาลไป 
ตัว Mishra เองก็ระแวง Urza เช่นกัน

 

นอกจากนั้น ตัว Mishra เองก็ได้เห็นภาพในฝันที่พยายามจะหลอกล่อให้เขาออกเดินทาง… ไปที่ใดซักที่ และเขาเชื่อว่า มันเป็นผลมาจาก Weakstone นั่นเอง

 

ตัว Tocasia ผู้เป็นอาจารย์เอง พยายามใกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่ ส่งศิลามาให้เธอ ผู้เป็นคนกลาง และเธอจะนำไปศึกษา เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่บานปลายไปมากกว่านี้

แต่ทั้ง Urza กับ Mishra ก็ไม่ไว้ใจอาจารย์ของตัวเอง… 

 

ไม่น่าเชื่อว่าศิลาเพียง 2 ก้อน กลับส่งผลกระทบต่อความสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ระหว่างอาจารย์และศิษย์ไปอย่างสิ้นเชิง

 

ความตึงเครียดของทั้งคู่ต่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

จนกระทั่งคืนหนึ่ง… Mishra ที่ดื่มมาเมาได้ที่ เข้าโจมตี Urza เพื่อที่จะนำหินมาเป็นของตนเอง

ทั้งคู่ต่อสู้ด้วยสิ่งประดิษฐ์ของตัวเอง เกิดเสียงอึกทึกไปทั่วทั้งค่าย ทำให้ Tocasia ตื่นขึ้นมา

เธอ ในฐานะอาจารย์ และผู้ปกครอง พยายามเข้าไปห้ามทั้งคู่… 

ในจังหวะที่ทั้ง Urza และ Mishra พยายามใช้พลังของศิลาที่ตัวเองมี โจมตีใส่อีกฝ่าย…
คลื่นพลังของศิลาทั้งสองทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง… 

Tocasia ที่อยู่ระหว่างคลื่นพลัง และแรงระเบิดนั้น ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ทัน…

การระเบิดครั้งนั้น ทำให้ Tocasia เสียชีวิตลงทันที
ทั้ง Urza และ Mishra ต่างโทษกันไปมา เส้นทางของพี่น้องต้องแยกทางกันที่ตรงนี้

Urza เลือกที่จะหาอาจารย์คนใหม่ เขาเดินทางกลับเข้าไปในเมือง 
ส่วน Mishra นั้น เลือกที่จะกลับไปหากลุ่มโจรสลัดทะเลทราย ที่เคยร่วมงานกันในการเก็บกู้ซากอารยธรรมเมื่อครั้งก่อน

 

- ทางแยกที่บรรจบ -

เมื่อ Urza เดินทางกลับเข้าเมือง เขาเข้าไปเป็นลูกศิษย์ของช่างทำนาฬิกาในเมือง Yotia

เพียงไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้ยินประกาศของกษัตริย์ เกี่ยวกับการแข่งขัน “เคลื่อนย้ายรูปปั้นหยกขนาดยักษ์” 
เพื่อหาชายที่แข็งแกร่งมากที่สุดในเมือง และรางวัลที่จะได้รับคือการได้รับเกียรติ์ให้แต่งงานกัน Kayla ผู้เป็นธิดาของผู้ปกครองเมือง Yotia

Urza เองไม่ได้สนใจเรื่องรางวัลเท่าใดนัก แต่เขารู้ว่าในวังหลวงนั้น มีแหล่งความรู้มหาศาล และสิ่งที่ถูกเก็บไว้ในนั้นอย่างแน่นอน คือคัมภีร์ของอารยธรรม Thran ที่เก็บเกี่ยววิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์สมัย Thran ไว้ทั้งหมด

Urza เข้าร่วมการแข่งขันด้วยการสร้างเครื่องจักรกลขนาดยักษ์ที่ขยับรูปปั้นหยกไปได้อย่างง่ายดาย…
แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนการโกงเกมก็ตาม แต่ราชาก็ยอมยกลูกสาวให้แต่งงานกับ Urza

 

หลังจากการแต่งงาน ตัว Kayla เองก็ไม่ได้มีสถานะเหมือนกับภรรยา เธอเหมือนกับผู้ช่วยของ Urza มากกว่า เพราะเขาเอาแต่คลุกอยู่กับการศึกษาคัมภีร์ของ Thran และทดลองสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ จากทรัพยากรที่เขาเข้าถึงได้อย่างมากมายเกินคณานับ

จนตอนนี้ เหล่าทหารของเมือง Yotia แทบจะกลายเป็นทหารจักรกลไปเสียหมดทั้งเมืองแล้ว

 

ทางด้านของ Mishra ที่อยู่กับกลุ่มโจรสลัดทะเลทราย ก็พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้ดีไม่ต่างกับตัว Urza เอง และด้วยกองกำลังที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้การเข้าปล้นสะดมของพลพรรค Mishra เริ่มเป็นปัญหากับเมืองต่างๆ รวมถึง Yotia ด้วยเช่นกัน

ความแข็งแกร่งของกองโจรทะเลทรายที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ทำให้การรบแบบกองโจร ได้เปลี่ยนไปเป็นการรบแบบเต็มรูปแบบ การรบพุ่งเกิดอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน… จนวันที่ Urza ได้พบกับ Mishra อีกครั้ง

 

Mishra ที่เขาเคยรู้จัก ได้เปลี่ยนไปแล้ว… 
แม้ว่าเรา พี่น้อง อาจจะไม่ถูกขี้หน้ากันสักเท่าใด… 
แต่ภาพที่ Urza เห็น มันไม่ใช่เพียงภาพของน้องชายที่หลงผิด

Mishra ได้กลายเป็นครึ่งคน ครึ่งจักรกลไปแล้ว… 

เขาเข้ากระบวนการเปลี่ยนร่างกายตามแบบของ Phyrexian

 

ประตูมิติที่พวกเขาเคยสำรวจบริเวณ Cave of Koilos ได้ถูกเปิดออกจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เหล่า Phyrexian ได้กลับเข้าสู่ Dominaria อีกครั้ง และมันก็ล่อลวง Mishra ให้เข้าเป็นพวกไปเรียบร้อยแล้ว

Urza ไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องยุติเรื่องนี้ ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย Urza เลือกที่จะใช้ Golgothian Sylex สิ่งประดิษฐ์ที่เขาได้มาจากบุคคลลึกลับ เขาใช้มันเพื่อกวาดล้างกองทัพของ Phyrexian… น้องชายของเขา… และดาวทั้งดวง
 


Urza ระเบิดดาว
 

คลื่นระเบิดกระจายไปทั้ง Dominaria เป็นวงกว้าง
บางพื้นที่ถูกทำลายจนสิ้น บางพื้นที่แผ่นดินได้เคลื่อนย้ายตำแหน่ง… 
แต่สุดท้ายแล้ว มันส่งผลทั่วทั้งดาว ด้วยการให้เกิดยุคน้ำแข็ง จากการเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลันของสภาพอากาศ

Urza ที่เป็นศูนย์กลางของระเบิด ได้ Mightstone และ Weakstone เข้ามาไว้ในร่าง ก่อนจะได้รับ Spark จากเหตุการณ์ครั้งนี้

 

- หนทางสู่การแก้แค้น -

Urza ที่เชื่อว่า Mishra น้องชายของเขา ถูกล่อลวงโดย Phyrexian เขาจึงเลือกที่จะแก้แค้น และล้างบางเหล่า Phyrexian ที่ทำลายทั้งน้องชาย และดวงดาวของเขา (ลุงทำตัวเองไม่ใช่เรอะ !?!)

 

Urza เริ่มสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อเป้าประสงค์เดียว “ทำลายล้าง Phyrexia และ Yawgmoth เทพเจ้าของ plane Phyrexia”

ในระหว่างนั้น Xantcha มนุษย์ประดิษฐ์จากดาว Phyrexia ที่เข้า Dominaria เพื่อลอบเร้นมาเป็นสายลับให้กับ Yawgmoth (หรือที่เรียกว่า Sleeper Agent) ได้ถูกขับไล่จาก Phyrexia เนื่องจากเธอได้หลุดจากการควบคุมของ Yawgmoth และตระหนักรู้เรื่องราวทั้งหมด 

Xantcha ได้มาเจอกับ Urza และเล่าเรื่องราวต่างๆ ของ Phyrexia ให้กับ Urza ฟัง 
 


Xantcha สายลับที่ตระหนักรู้ตัวตน
 

และด้วยความเกลียดชังของ Urza ที่มีต่อ Phyrexia 
รวมเข้ากับความรังเกียจพฤติกรรมอันโหดร้ายของ Yawgmoth ที่ Xantcha มีต่อผู้สร้างของเธอ

 

ทั้งคู่จึงบุกเขาโจมตี plane Phyrexia ด้วยมังกรประดิษฐ์ของ Urza

 

โดยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของ Phyrexia นั้น จะเป็นดวงดาวที่สร้างเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีหน้าที่เป็นของตนเอง

Urza ใช้มังกรประดิษฐ์ของเขาบุกเขาโจมตี Phyrexia
เพียงแค่คลื่นพลังที่ยิงออกมาจากมังกรของเขา ก็ทะลุทะลวงไปจนถึงชั้นที่ 4 จาก 9 ชั้น

แต่ก่อนที่ Urza จะได้ทำอะไรมากกว่านั้น
Yawgmoth ก็รับรู้ถึงการบุกรุกที่ไม่อาจหยุดยั้งได้โดยเหล่าเครื่องจักรกลของเขา เขาจึงใช้พลังจิตเข้าสู่จิตใจของ Urza และทำให้ Urza ที่โกรธแค้น ถูกผลักดันเข้าสู่ความบ้าคลั่งในจิตใจอย่างง่ายดาย

 


Urza กับจิตที่โดนทำลาย
 

Urza จำต้อง planeswalk หนีจากความตายก่อนจะสิ้นสติ 
แต่ Yawgmoth เอง ไม่ยอมให้ผู้บุกรุกหนีไปได้ง่ายๆ มันส่งบรรดาทหารเพื่อตามล่า Urza และ Xantcha

 

ทั้ง Urza และ Xantcha หนีจากการตามล่าไปเรื่อยๆ จน Xantcha เห็นแล้วว่า Urza ต้องการความช่วยเหลือจากภาวะวิปริตในจิตใจของเขา เธอจึงให้ Urza พาทั้งคู่ไปที่ plane Serra เพื่อให้นางฟ้า Serra ช่วยทำการรักษาให้

จนกระทั่งอาการของ Urza ดีขึ้น ทั้งคู่จึงเดินทางออกจาก Serra เพื่อทำการหลบหนีต่อไป 
แต่ทั้ง Urza และ Xantcha ก็ทิ้งร่องรอยให้บรรดา Phyrexian ตามรอยมาจนถึง Serra… และทั้ง Plane ก็โดนยึดครองโดย Phyrexian
 


Serra เจ้าของ Plane แห่งนางฟ้า
 

แม้ว่าอาการของ Urza จะดีขึ้น แต่ความรู้สึกผิดบาปในจิตใจของเขา เรื่องความตายของ Mishra ก็ยังคงตามมาหลอกหลอน และทำให้ตัว Urza เองกลายเป็นร่างไร้จิตวิญญาณ เขาหมดแรงบรรดาลใจที่จะใช้ชีวิต… 

ซึ่งมันเป็นช่วงที่เหล่า Phyrexian นั้น ได้ส่งบรรดา Sleeper Agent ลอบเร้นเข้ามาใน Dominaria เรื่อยๆ 
แต่ผู้ที่มีความสามารถในการปกป้อง plane กลับยังติดอยู่กับความรู้สึกผิดในครั้งอดีต

 

Xantcha เธอได้พบกับทาสชายคนหนึ่ง เขามีลักษณะภายนอกที่เหมือนกับ Mishra เป็นอย่างยิ่ง 
Xantcha จึงไถ่ชีวิตทาสคนนั้นออกมา เพื่อให้เขาแสดงเป็น Mishra

แม้ว่ามันจะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนัก แต่การมากลับมาของน้องชายปลอมๆ ทำให้ Urza ได้สติ และเริ่มกลับมามุ่งมั่นกับการกำจัด Phyrexian ให้หมดไปอีกครั้ง

 

Urza ได้กลับมาประดิษฐ์เครื่องมือที่จะกำจัดเหล่า Sleeper Agent ที่ Xantcha เชื่อว่า ตอนนี้แฝงตัวอยู่ในแทบทุกหัวมุมของ Dominaria เรียบร้อยแล้ว

เครื่องมือของ Urza จะเป็นการส่งคลื่นเสียงในระดับที่มนุษย์ทั่วๆ ไปไม่ได้ยิน แต่กับเหล่า Sleeper Agent แล้ว จะทำให้พวกมันไม่สามารถทำงานต่อไปได้อีกเลย

ทั้งสามทะยอยติดตั้งเครื่องมือเหล่านี้ไปทั่วทั้ง Dominaria ก่อนจะปิดท้ายภารกิจ ณ สถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆ สิ่ง

Urza และพรรคพวก ได้กลับไปที่ Cave of Koilos อันเป็นประตูมิติ สำหรับเดินทางข้ามไปมาระหว่าง Phyrexia กับ Dominaria
พวกเขาได้พบกับ Gix อดีตมนุษย์ที่เคยอยู่ที่ Dominaria สมัย Thran… 
ตอนนี้มันกลายเป็นปีศาจเครื่องจักรกลไปอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นผู้นำการลอบเร้นของเหล่า Sleeper Agent จาก Phyrexia
 


Gix ที่กำลังโจมตี Xantcha

 

ทั้งหมดได้เข้าต่อสู้กัน แน่นอนว่าพลังของมนุษย์ ไม่สามารถต่อกรกับร่างกายที่ถูกปรับแต่งมาเป็นเครื่องจักรสังหารเต็มรูปแบบอย่าง Gix

Urza ที่กำลังเพลี้ยงพล้ำ ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Mishra ตัวปลอม ที่เข้ามาขัดจังหวะ Gix 
เขายอมสละชีวิตของตนเอง เพราะทั้งเขาและ Xantcha ต่างเชื่อว่า Urza คือคนเดียวจะหยุดการรุกรานของ Phyrexian ได้

Xantcha เปิดโอกาสให้ Urza ได้เปิดการใช้งานเครื่องมือที่เขาได้ฝังไว้สำเร็จ… 

คลื่นเสียงที่ทำงาน ทำให้เหล่า Sleeper Agent หยุดการทำงาน
Gix เองที่เป็นเครื่องจักรเองก็โดนผลกระทบ และทำให้ Urza เอาชนะเขาไปได้

ส่วน Xantcha ก็สละชีวิตของเธอจากการได้รับผลกระทบของคลื่นเสียงนั้น… Urza เก็บร่างที่เหลือของเธอกลับไป…

 

- การเริ่มต้นใหม่… เพื่อเป้าหมายเดิม -

แม้ว่าเหล่า Phyrexian ที่แฝงตัวใน Dominaria จะถูกกำจัดไปแล้ว แต่ plane Phyrexia เองยังคงอยู่

Urza ได้ก่อตั้งสถาบันเพื่อทำการทดลอง และวิจัยสำหรับการต่อต้าน และกำจัด Phyrexia โดยเฉพาะ… เขาเรียกมันว่า Tolarian Academy

Urza รวบรวมบุคลากรฝีมือดีจากทุกสายวิชา ทั่วทุกสารทิศ เพื่อทำการวิจัย และแลกเปลี่ยนความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับ Phyrexia อาทิเช่น Barrin ผู้มีความชำนาญด้านเวทย์มนต์

รวมถึงรวบรวมนักเรียนระดับหัวกะทิ เช่น Teferi อัจฉริยะตัวป่วนจาก Zhalfir หรือ Jhoira นักประดิษฐ์จาก Ghitu เป็นต้น
 

   
Barrin ที่เข้ามาเป็นอาจารย์ และภาพวัยเด็กของ Teferi กับ Jhoira
 

ในขณะที่ตัวโรงเรียนเองสามารถดำเนินการได้อย่างไม่ติดขัดอะไร เป้าหมายที่แท้จริงของ Urza กลับเป็นความพยายามจะนำ Mishra กลับมา… ด้วยการย้อนเวลากลับไปช่วย Mishra ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเครื่องจักร Phyrexian

 

จนสุดท้าย เครื่องมือในการย้อนเวลาก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมๆ กับการสร้างเครื่องจักรที่สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อแก้ไขมัน 

หัวใจของ Xantcha ที่เรียกว่า Heartstone ได้ถูกปลูกฝังลงไปใน Golem ที่เป็นเครื่องมือในการเดินทางย้อนเวลาไปปรับเปลี่ยนอดีต เพื่อเป็นแหล่งพลังงาน

ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี Golem มีชีวิตขึ้นมา และ Jhoira ได้ตั้งชื่อ Golem ตัวนั้นว่า Karn... 
 

   
หัวใจเทคโนโลยี Phyrexian กับ Karn, Golem สำหรับเดินทางย้อนเวลา
 

ในขณะที่ Urza กำลังทำการทดลองส่ง Karn กลับไปในอดีต Karn ก็พบกับช่วงเวลาที่ Sleeper Agent ตนหนึ่งได้วางแผนจะลักลอบเข้ามา และโจมตี Tolarian Academy 

Karn รีบกลับมาในปัจจุบันเพื่อจะเตือน Urza

แต่ก็ไม่ทันการ ตอนนี้กองทัพของ Phyrexian ได้เข้าถึงโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเลือด และความสูญเสีย 

Karn จึงขอ Urza ให้ส่งเขากลับไปในอดีต เพื่อแก้ไขเหตุการณ์นี้ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง

 

Karn บุกเข้าไปถึงเครื่องย้อนเวลา เพื่อที่จะย้อนเวลาอีกครั้ง ครั้งนี้ เขาเข้าไปแก้ใขอดีต ด้วยการเข้าโจมตี Sleeper Agent คนนั้น ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้าย 

แต่ทว่า Karn กลับถูกดึงกลับไปที่ปัจจุบันโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว…

 

เครื่องย้อนเวลาเกิดความผิดพลาด มันระเบิดออกอย่างรุนแรง และทำลายโรงเรียนไปครึ่งหนึ่ง…

 

เหล่า Phyrexian ไม่ได้บุกเข้าโรงเรียนของ Urza อีกแล้ว

ทว่าความสูญเสียของตัวโรงเรียนไม่ได้หายไปไหน แต่อย่างน้อยบรรดานักเรียน และครูที่อยู่ภายในก็ไม่ได้ถูกสังหารอย่างสยดสยอง…

 

Urza และครูคนอื่นๆ สร้างโรงเรียนของพวกเขาขึ้นมาใหม่… ท่ามกลางความผิดปกติบางอย่าง

การระเบิดของเครื่องย้อนเวลา ทำให้เกิดรอยแยกมิติทางเวลา 

ในบางส่วนของเกาะ Tolaria เวลาจะเดินไปอย่างรวดเร็ว บางส่วนก็เดินไปอย่างเชื่องช้าราวกับหยุดเดิน…

บางคนก็ติดอยู่ในช่วงเวลาที่บิดเบือนนี้แบบไม่ได้ตั้งใจ… แต่ Urza มองการณ์ไกลกว่านั้น เขาสร้างชุดเกราะที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถเดินทางเข้าออกรอยยแยกเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย และใช้การบิดเบือนของเวลาให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเร่งผลการทดลอง หรือสร้างยาอายุวัฒนะจากน้ำที่ติดอยู่ในรอยแยกเวลาเดินช้า

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ทำให้งานในการต่อต้าน และกำจัด Phyrexian ก้าวหน้าไปอย่างมาก
 

      
เวลาที่ผิดเพี้ยน บ้างเร็ว บ้างช้า... บ้างก็ทำให้สิ่งมีชีวิตหายไปเลย
 

แต่ Urza เองก็ไม่ได้ประมาท เขารวบรวมพรรคพวกจากทั่วทั้ง Dominaria เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีของ Phyrexian

และวันนั้นก็มาถึง สายลับของ Phyrexian ที่เคยเข้ามาโจมตี แต่เขาไม่ได้ถูก Karn สังหาร และไปติดอยู่ในมิติเวลาที่เดินเร็วแทน ทำให้เขาได้รวบรวมกองทัพ Phyrexian ในนั้น ก่อนจะบุกออกมาโจมตีโรงเรียนอีกครั้ง

ในครั้งนี้ Urza เตรียมพร้อมป้องกันไว้เป็นอย่างดี ทำให้การโจมตีไม่สำเร็จ 

และผู้คนยังได้เห็นความน่ากลัวของ Phyrexian จึงเข้าร่วมกับ Urza มากขึ้น ทำให้ Dominaria มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากกว่าที่เคย

 

- ตำนาน และสายเลือด -

หลังจากจบศึกที่ Tolaria ตัว Urza เองก็เริ่มโครงการตอบโต้การโจมตี Phyrexia อีกครั้ง หลังจากที่ครั้งแรก เขาบุกเข้าไปแบบไม่มีแผน และทำให้เขาเสียสติ และเดือบจะเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น

 

Urza เลือกที่จะสร้างยานบิน ที่สามารถเคลื่อนที่ข้าม plane ได้…

ชิ้นส่วนต่างๆ และองค์ความรู้ ถูกนำมาประกอบจนตัวยานเสร็จสิ้น เขาเรียกมันว่า “Weatherlight”

แม้ว่าตัวยานจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่มันยังติดปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน… 

ด้วยเทคโนโลยีของอารยธรรม Thran นั้น การจะสร้าง Powerstone ที่สามารถขับเคลื่อน Weatherlight ให้เดินทางข้าม plane ได้นั้น คงต้องใช้พลังมานาทั้งหมดของดาว… 

ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงมานาทั้งหมดของ Dominaria ไปใส่ในยาน แล้วทำให้ทุกๆ ชีวิตที่อยู่บนดาวต้องตายลง…

 

แต่ความหวังไม่ได้หมดลง… ที่ Serra นั้น หลังจาก Phyrexian ได้บุกเข้ายึดครองดาวไปแล้ว ในมุมมองของ Urza มันก็กลายเป็นดาวที่ควรค่าแก่การทำลายทิ้ง และเพื่อไม่ให้สูญเปล่า เขาจะนำพลังงานจากดาวที่กำลังจะตายนี้ เป็นพลังเพื่อขับเคลื่อน Weatherlight นั่นเอง

 

เมื่อไปถึง plane Serra ตัว Urza เอง ก็ต้องปะทะกับ Radiant นางฟ้าองค์ใหม่ที่กลายเป็นผู้ดูแลดวงดาวแทน Serra ภายใต้การชักจูงของ Phyrexian 

Radiant เองเกือบจะเอาชนะ Urza ได้แล้ว แต่ก็พลาดท่าจากความไม่ประสาของเธอเอง ที่พยายามจะใช้พลังจาก Weakstone และ Mightstone ที่ Urza มี จนทำให้เกิดการระเบิดขึ้น 

เธอยอมแพ้ และเข้าใจถึงเหตุผลของ Urza ในวาระสุดท้ายของเธอ เธอจึงยอมให้พลังงานจากการตายของ plane Serra ให้กับ Urza โดยไม่ขัดขวาง

ส่วนชาว Serra ตนอื่นๆ ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ Dominaria ผ่านทาง Weatherlight ที่ได้พลังงานของดาวไปนั่นเอง
 


ยานบิน Weatherlight

 

กระนั้น… แม้เครื่องจักรจะมีความสมบูรณ์มากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถขับเคลื่อนตัวมันเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถ้าหากขาดซึ่งผู้ควบคุมที่สมบูณ์แบบเช่นกัน

Urza เห็นดังนั้น เขาจึงเริ่มโครงการ “สุดยอดมนุษย์” ด้วยการตัดต่อพันธุกรรมของตระกูลต่างๆ ใน Dominaria ให้สามารถต่อกรกับพวกจักรกล Phyrexian และสภาวะต่างๆ ในสงครามที่จะมาถึง

แม้ว่าจะมีหลากหลายความเห็นแย้ง เนื่องจากมันดูขัดกับศีลธรรมอยู่ไม่น้อย แต่หนึ่งในมนุษย์ผู้สมบูรณ์แบบ ทั้ง Gerrard Capashen และ Sisay ก็มาจากโครงการที่มีชื่อว่า Bloodline ของ Urza นั่นเอง
 


Barrin ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดต่อพันธุกรรม กำลังถกเถียงกับ Urza ผู้ดำเนินโครงการ

   

และนั่นทำให้ลูกเรือของยานบิน Weatherlight ชุดแรก ประกอบไปด้วยสมาชิกดังนี้

 

 

Gerrard Capashen : ผู้บังคับบัญชาสูงสุด และผู้ที่มีความสมบูรณ์สูงสุดจากโครงการ Bloodline

Sisay : กัปตันเรือ และผู้สืบทอดจากโครงการ Bloodline (พ่อแม่ของเธอเข้าร่วมโครงการ Bloodline แต่ถูกสังหารโดย Yawgmoth ก่อนที่เธอจะรู้ความ)

Hanna : ต้นหน และลูกสาวของ Barrin กับ Rayne (โดย Rayne เองก็เป็นผู้เข้าร่วมโครงการ Bloodline) เป็นคนรักของ Gerrard

Tahngarth Minotaur เป็นคนรักของ Sisay

Orim : แพทย์สนาม

 

 

Ertai : ผู้ใช้เวทย์มนต์

Karn Golem ช่างเครื่องยนต์ (เนื่องจากเขาถูกสร้างขึ้นจากองค์ความรู้ของ Thran Tome จึงมีความเข้าใจโครงสร้างของ Weatherlight ที่สร้างมาจากเทคโนโลยีของ Thran เช่นกัน)

Mirri : มนุษย์แมว เป็นช่างทั่วไป และทหาร เป็นเพื่อนของ Gerrard และ Rofellos ก่อนจะเข้าเป็นลูกเรือ Weatherlight

Crovax : ช่างทั่วไป และทหาร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Bloodline

Rofellos : elf ทหาร เป็นเพื่อนของ Gerrard และ Mirri

 

 

Starke il-Vec : ช่างทั่วไป ผู้นำทางภาคพื้นดิน

Squee Goblin คนรับใช้

Multani : ตัวแทนของป่า Yavimaya เป็นผู้ใช้เวทย์มนต์แห่งธรรมชาติ เป็นอาจารย์ของ Gerrard, Mirri และ Rofellos

 

ในขณะเดียวกัน ทางด้าน Phyrexian ก็ไม่ยอมให้โครงการของ Urza ได้สำเร็จไปแบบง่ายๆ 

พวก Phyrexian ได้สร้างดวงดาวสังเคราะห์ที่ชื่อว่า Rath ที่มีความพิเศษจากวัสดุตั้งต้น… นั่นก็คือ Flowstone ที่เป็นเหล็กเหลว

โดยดาว Rath นั่น จะเคลื่อนตัวเข้ามาครอบทับ Dominaria เพื่อใช้ตัวเองเป็นฐานส่งกองทัพของ Phyrexian เข้าสู่ Dominaria โดยไม่ต้องผ่านประตูมิติ

 

การบุกรุกของ Phyrexian ก็เริ่มต้นขึ้น แต่ทางฝั่ง Dominaria และโครงการ Bloodline ของ Urza เองก็มีความคืบหน้าไปมากพอที่จะต่อกรกับเหล่า Phyrexian แล้ว 

การบุกของ Phyrexian จึงไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับ Dominaria มากนัก และเปิดโอกาสให้ Urza ได้โจมตีกลับ

 

- การโต้กลับ และการทรยศ -

ในการโจมตีกลับ Urza ได้รวบรวมเหล่า Planeswalker ที่ทรงพลัง มาขับเคลื่อน Titan Engines หุ่นยนต์ยักษ์ที่ Urza สร้างขึ้นเพื่อขยายขอบเขตพลัง และเสริมอาวุธเพื่อโจมตีเหล่า Phyrexian 

 

โดยสมาชิกของทีม 9 Titan มีทั้งสิ้น 9 ตน ดังนี้
 


 

Urza : ผู้ประดิษฐ์ Titan Engine และ Planeswalker ที่เชื่อว่าทรงพลังที่สุดในตอนนั้น

Bo Levar : โจรสลัดจาก Yotia ผู้ส่งสินค้าข้าม Plane

Daria : ลูกศิษย์ของ Taysir

Freyalise : ครึ่งคน - ครึ่ง elf ผู้แก้ไขยุค Ice Age

Commodore Guff : ผู้ทรงภูมิ และผู้หยั่งรู้ความเป็นไปทั้ง Multiverse
 


Kristina of the Woods : อดีตคนรักของ Taysir

Taysir of Rabiah : Planeswalker ที่ว่ากันว่าทรงพลังเทียบเท่า หรือมากกว่า Urza เสียอีก

Tavesh Szat : ครึ่งคน - ครึ่งปีศาจ ที่เคยทำงานให้ Phyrexian จึงรู้แผนผังของดาว Phyrexia

Lord Windgrace : มนุษย์เสือดำ ผู้พิทักษ์ Urborg แห่ง Dominaria ที่แม้จะเกลียดสิ่งประดิษฐ์แค่ไหน เขาก็เข้าใจถึงภัยจาก Phyrexia ดี

 

ทั้ง 9 ได้เดินทางไปสู่ Phyrexia เพื่อทำการทำลาย Phyrexian ทิ้งทั้งหมด… 

แต่ทว่า ความดิบเถื่อน และสัญชาตยานปีศาจของ Tavesh ได้กำเริบ เพราะมันเป็นปีศาจที่มองหาความสงบ แต่ Urza กลับไปลากมันออกมาจากดาวแห่งความมืดมิด ทำให้มันหลุดจากการควบคุมจากฝั่งมนุษย์ที่เหลืออยู่น้อยนิด

Tavesh ทำการสังหาร Kristina กับ Daria โดยที่เธอทั้งสองคนไม่ทันตั้งตัว

 

Urza เข้ามาจัดการ Tavesh… แต่ไม่ใช่เพียงเพื่อยุติเหตุการณ์ก่อนจะบานปลาย เขาดึงพลังมหาศาลของ Tavesh ที่สิ้นชีพลง เข้าไปใน Soul bomb สิ่งประดิษฐ์ที่เขาวางแผนจะใช้มันเพื่อระเบิดดาว Phyrexian ทิ้งทั้งดวง

แต่สิ่งโหดร้ายยิ่งกว่าการทรยศของ Tavesh คือ… 

Urza คาดเดาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า Tavesh จะหักหลัง… และเขาจะใช้เหตุการณ์นี้ เป็นเหตุผลในการสังหาร Tavesh เพื่อเอาพลังมาเป็นเชื้อเพลิงให้กับสิ่งประดิษฐ์ของเขา

เขาสร้างเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมา เพื่อให้การดึงพลังชีวิตของมหาปีศาจมาใช้ กลายเป็นเรื่องชอบธรรม…
 


Urza ดูดพลังชีวิตของ Tavesh Szat
 

กระนั้น Urza ที่ได้เหยียบลงบนดาว Phyrexia เป็นครั้งแรก กลับเกิดความรู้สึก “ประทับใจ” กับดวงดาวที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาจากสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมด…

ตัวเขาเอง ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าในชีวิตของเขาจะสามารถสะสมความรู้ และความสามารถในการสร้างดวงดาวทั้งดวงได้… 
ลำพังแค่สร้างยานบินข้ามดวงดาวก็เป็นเรื่องเต็มกลืนความสามารถของเขาแล้ว…

 

Urza ไม่ยอมใช้ Soul bomb ของเขา… Soul bomb ที่เป็นเหมือนระเบิดตั้งต้น ให้กับระเบิดลูกอื่นๆ
ซึ่งนั่นทำให้ระเบิดลูกอื่นๆ ไม่ทำงานไปด้วย 

Urza ไม่อยากจะสูญเสียแหล่งความรู้อันทรงคุณค่าแห่งนี้ไป

 

ทางด้าน Taysir ที่สูญเสียลูกศิษย์จากปีศาจที่ Urza พยายามจะยัดเยียดเข้ามาในทีม 
แถมตอนนี้ Urza ยังไม่ยอมทำ “ภารกิจ” ที่เขาเป็นคนวางแผนมาเองแท้ๆ 
ทำให้ Taysir ไม่พอใจอย่างมาก เขาเลือกที่จะเข้ามาช่วย Dominaria ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ดาวบ้านเกิดของเขาด้วยซ้ำ

 

Taysir เข้าโจมตี Urza เพื่อที่จะจัดการเรื่องบ้าๆ นี่ให้จบลงไป 
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร Urza ก็สั่งระเบิด Titan Engine ของ Taysir...
หนึ่งในสุดยอด Planeswalker ได้เสียชีวิตไปอีกคนนึง จากความบ้าสติหลุดของ Urza

 

Lord Windgrace เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และเขาเลือกที่จะเก็บหัวใจของ Taysir ฝังไว้กับตัว เพื่อไม่ให้จอมมนต์ดำที่ไหนมาเอามันไปใช้ในพิธีกรรมบ้าๆ บอๆ ที่ไหนอีก… 

เขาอยากให้เพื่อนของเขาได้หลับอย่างสบาย และปลอดภัยในตัวของเขา ก่อนที่ Lord Windgrace จะ planeswalk กลับไปที่ Dominaria เพื่อปกป้อง Urborg บ้านของเขา จากการทรยศของ Urza

 

ทางด้าน Urza เอง เขาทำลายตัวจุดชนวน Soul bomb แล้วเข้ายอมสวามิภักดิ์กับ Yawgmoth… 
เขายอมเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเบี้ยของเทพเจ้าแห่ง Phyrexia... คนที่เขาเคยเคียดแค้น เคยโทษว่าเป็นต้นเหตุของทุกสิ่ง… 
แต่ด้วยความสามารถของ Yawgmoth ในการสร้างดวงดาวขึ้นมาจากสิ่งสังเคราะห์ทั้งหมด มันทำให้ Urza แทบจะลืมทุกๆ อย่างไป… 
ลืมแม้กระทั่งหน้าที่… ที่จะต้องปกป้อง Dominaria

 

อย่างไรก็ตาม Yawgmoth ไม่ใช่คนโง่ (จริงๆ ตอนนี้ก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะ) มันไม่ได้มองการยอมแพ้ของ Urza เป็นเรื่องที่น่าไว้ใจ… 
และมันก็มีบททดสอบความจงรักภักดีให้กับสมุนคนใหม่
 


Yawgmoth ในร่างของเทพเจ้า plane Phyrexia 


Yawgmoth ให้ Urza เข้าสู่ลานประลอง… ที่ที่เขาจะได้พบกับสุดยอดงานทดลองของตัวเอง… 

Gerrard Capashen นั่นเอง

 

ย้อนไปในช่วงเริ่มต้นการรุกรานของ Phyrexia นั้น Hanna ผู้เป็นลูกเรือและคนรักของ Gerrard ได้พลาดโดนโจมตีจากอาวุธที่สร้างมากจาก Flowstone ของดาว Rath

มันไม่ทำให้เธอเสียชีวิตในตอนนั้น แต่มันทำให้เธอป่วย แม้ว่าลูกเรือของ Weatherlight ทุกๆ คนต่างพยายามหาวิธีจะรักษาเธอ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย สุดท้ายแล้ว Hanna ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

การสูญเสียคนรัก ทำให้ Gerrard จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าใดนัก จนสุดท้าย Gerrard Capashen ก็พลาดท่าให้กับ Ertai ที่เป็นลูกเรือของเขา แต่บัดนี้ได้หักหลังและเข้าพวกกับ Phyrexian ไปแล้ว

Ertai ได้จับตัว Gerrard กับ Squee ส่งไปที่ Phyrexia เพื่อให้กลายเป็นทาสของ Yawgmoth

 

Yawgmoth ได้ยื่นข้อเสนอที่ Gerrard ไม่อาจปฏิเสธได้… มันบอกกับเขาว่า มันสามารถนำ Hanna กลับมาได้… และนั่นทำให้ Gerrard กลายเป็นเบี้ยตัวสำคัญของ Yawgmoth 

 

Gerrard จึงต้องมาปะทะกับ Urza… ผู้ที่เปรียบเสมือนพ่อของเขา ที่ตอนนี้สติหลุดไปแล้ว และยอมจะเป็นเบี้ยตัวใหม่ให้ Yawgmoth

 

ทางฝั่งของ Urza การต่อสู้ครั้งนี้ เพียงเพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดีที่เขามีต่อ Yawgmoth เท่านั้น
แต่ของ Gerrard มันคือการต่อสู้ที่ Yawgmoth ให้สัญญาว่า “นี่คือภารกิจสุดท้าย ก่อนที่เขาจะได้พบกับ Hanna”

 

ทั้งสองแม้จะต่างเหตุผล แต่ก็เป้าหมายเดียวกัน… 
ทั้งคู่เข้าโจมตีกันอย่างสุดความสามารถ 
แต่เป็นทางฝ่ายของ Urza ที่เหนือกว่า ทว่าเขาก็ไม่สามารถปลิดชีพ Gerrard ได้… 

นั่นเป็นเพราะ Yawgmoth ไม่ยอมให้สิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดอย่าง Gerrard ต้องตายจากการดวลโง่ๆ นี้
มันขัดขวางการลงมือสังหารของ Urza ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

จนสุดท้าย กลับกลายเป็น Gerrard ที่บั่นคอของ Urza จนขาดกระเด็น… 
Gerrard คว้าหัวของ Urza ขึ้นมา ชูมันขึ้นให้เทพเจ้าแห่ง Phyrexia ได้รับรู้ และความหวังในใจที่จะได้พบกับคนรักของเขา ก็ได้ทอแสงอีกครั้ง
 


ลานประลองแห่งความตาย


Yawgmoth ได้มอบร่างของ Hanna ให้แก่ Gerrard
ร่างที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ มันเป็นเพียงร่างว่างเปล่า ที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับพวก Sleeper Agent

ภายนอกคือเธอ คนที่เขารัก แต่ข้างในไม่มีอะไรที่เป็นของเธออีกต่อไป…

 

Gerrard ลงมือสังหารร่างปลอมนั้น 

ในจังหวะเดียวกันกับที่ Yawgmoth กำลังถ่ายจิตสำนึกของตัวเองไปในร่างของ Hanna เพื่อให้ Gerrard ยังคงคิดว่านี่คือร่างจริงของ Hanna และมันเองก็ไม่คิดว่า Gerrard จะสังหารร่างปลอมแบบนี้ด้วย

 

ด้วยความเจ็บปวดแบบที่ไม่ได้ตั้งตัว Yawgmoth เผลอใช้พลังผลัก Gerrard ให้กระเด็นออกไปจากลานประลอง

 

Gerrard ฟื้นขึ้นมาในห้องแห่งบัลลังก์ เขาเจอกับ Crovax อดีตลูกเรือ Weatherlight อีกคน ที่ตอนนี้กลายเป็น Vampire และเข้าร่วมกับ Phyrexian ไปแล้ว

Crovax เข้าโจมตี Gerrard แต่ก็โดน Gerrard สังหารไปได้ ก่อนที่ Weatherlight จะมาถึง และรับ Gerrard กับหัวของ Urza กลับไปที่ Dominaria

 

ทางด้านของ Yawgmoth เองที่รู้แล้วว่ามันไม่สามารถดึง Gerrard มาเป็นพวกได้ มันจึงเดินทางข้าม plane ไปเพื่อตามล่า Gerrard และทำสิ่งที่มันอยากจะทำมานานกว่า 9,000 ปี…

 

"ทำลายล้าง Dominaria ทิ้งซะ"

 

Yawgmoth ดัดแปลงร่างของตัวเองให้กลายเป็นเครื่องจักรพ่นหมอกควันแห่งความตาย 
เมฆหมอกสีดำทมิฬปกคลุมท้องฟ้าของ Dominaria 

 

คนเป็นแค่เพียงสัมผัสก็เป็นอันต้องลาจาก 
คนตายก็ถูกปลุกขึ้นมาเป็นผีดิบกลับเข้าโจมตีเหล่าคนเป็นที่ยังหลงเหลืออยู่…

 

- ฟื้นคืนสติ และการไถ่บาป -

ภายใต้ความหวังอันริบหรี่ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากหัวที่ไร้ร่าง… 

เสียงของ Urza นั่นเอง… Urza ยังไม่ตาย! การที่หัวของเขาหลุดออกจากร่างเหมือนจะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับ Urza เลย กระนั้นเขาเองก็เสียพลังไปอย่างมากมาย

Urza บอกกับลูกเรือ Weatherlight ถึงวิธีการจัดการกับ Yawgmoth ที่เขาได้วางแผนไว้…

 

Yawgmoth เป็นพลังงานจากมานาสีดำ จึงต้องใช้มานาสีขาวเพื่อจัดการ

 

Urza แนะนำให้ลูกเรือ Weatherlight ดึงพลังมาจาก Null Moon สิ่งประดิษฐ์ขนาดเท่าดวงจันทร์ ที่มีหน้าที่เก็บมานาสีขาวเอาไว้ ซึ่งถูกสร้างไว้ตั้งแต่สมัยอารยธรรม Thran

 

แม้ว่ามานาสีขาวจะทรงพลังเมื่อนำไปโจมตีมานาสีดำของ Yawgmoth 
แต่พลังจาก Null Moon มันก็ทำได้เพียงสร้างความบาดเจ็บให้แก่ Yawgmoth เท่านั้น… 
มันยังไม่เพียงพอที่จะกำจัดร่างของ Yawgmoth ลงได้

 

แต่อัจฉริยะอย่าง Urza ไม่ได้มีเพียงแผนเดียว…
เขาเปิดเผยแผนการสุดท้ายที่เขามี… กับอาวุธชิ้นสุดท้ายที่เขามี The Legacy Weapon

 

ทุกๆ สิ่งประดิษฐ์ที่ลูกเรือ Weatherlight ได้ผจญภัย และตามหามาตลอดดวลาที่ผ่านมา มันไม่ได้เป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์โบราณที่เก็บมาเพื่อศึกษาเท่านั้น… 

มันคือแผนของ Urza ที่จะใช้พลังของทุกๆ สิ่งประดิษฐ์ที่ได้รวบรวมมา เพื่อสร้างเป็นสุดยอดอาวุธเพื่อทำลายล้าง Phyrexia
 


The Legacy Weapon จะประกอบไปด้วย

  • กระดูกของ Ramos : ชิ้นส่วนของมังกรสังเคราะห์ที่ Mishra ใช้งานในช่วงทำศึกกับ Urza
  • Salvation Sphere : อยู่ในตุ๊กตาของ Squee
  • Chimeric Sphere 
  • Juju Bubble
  • Null Rod
  • Power Matrix
  • Skyshaper      
  • Thran Turbine
  • Thran Forge
  • Thran Tome
  • Mind Stone
  • Touchstone
  • ยาน Weatherlight : เพื่อกักเก็บพลังงาน และสิ่งประดิษฐ์ชิ้นอื่นๆ
  • Karn : เพื่อเป็นร่างที่ทนทาน และสามารถรับพลังทั้งหมดได้
  • Mightstone + Weakstone : อยู่ในหัวของ Urza ที่เขาฝังไปแทนที่ดวงตาทั้งสอง
  • จี้รูปนาฬิกาทรายของ Gerrard
  • Gerrard Capashen : ผู้เป็นผลสัมฤทธิ์ของสุดยอดสายพันธ์ุมนุษย์

 

เมื่อทุกสิ่งพร้อมแล้ว Gerrard ก็ได้ทำการโจมตีด้วย Legacy Weapon ผลของมันทำให้ Yawgmoth และหมอกควันแห่งความตายของมันหมดไป

Gerrard Capashen และ Urza เสียชีวิตลงจากการใช้งาน Legacy Weapon
ส่วน 
Karn ได้รับพลังจาก Legacy Weapon และ Spark ของ Urza ก็กลายเป็น Planeswalker

 

 

และก็มาถึงช่วงเวลาปิดท้าย กับเรื่องราวของอัจฉริยะคนคลั่ง Urza ก็จบลงอย่างสมบูรณ์ ด้วยความตาย และการล้างบาปของเขานั่นเองครับ

ทางเราขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และทุกๆ การติดตามครับ