GARRUK WILDSPEAKER

"นักล่ารู้ดีว่าโลกนี้มันเป็นไปอย่างไร... ท่ามกลางความขัดแย้ง ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด"

 

Garruk Wildspeaker เป็น Planeswalker มนุษย์เพศชาย ลักษณะเด่นของเขาคือร่างกายที่ใหญ่โต เขาสูงกว่า 2.5เมตร

นอกจากนี้ เขายังเป็น Druid หรือผู้สื่อสารกับธรรมชาติ เขามีความสามารถในการสื่อสาร และเรียกสัตว์ต่างๆ ได้

 

Garruk เป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร และเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติมากกว่าผู้คน กระนั้น เขาก็เป็นคนค่อนข้างใจร้อน และหยาบกระด้าง เมื่อรวมเข้ากับลักษณะของร่างกายที่ใหญ่โตของเขา จึงทำให้คนที่ไม่รู้จักจะมองว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด มากกว่าคนที่น่าคบหา

 

ชีวิตของเขาจะอยู่กับป่า เขาดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เขาได้รับพลังจากสัตว์ที่เขาล่าได้ด้วย

 

แต่ในวัยเด็กของ Garruk เขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับการเป็นนักล่า แต่มันมาจากเรื่องราวในวัยเด็กของเขา…

Garruk เกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นนักเวทย์ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ในเมืองที่เขาอยู่ มีการเกณฑ์ทหารเกิดขึ้น ซึ่งพ่อของเขาไม่ต้องการให้ Garruk เอาชีวิตไปทิ้ง จึงให้ Garruk หนีไปซ่อนในป่า จนกว่าจะปลอดภัย…

 

ข้อความสุดท้ายที่ Garruk ได้จากพ่อของเขาก็คือ “ผู้คนและโลกภายนอก มันมีแต่เรื่องหลอกลวง ธรรมชาติจะมอบความจริงใจให้กับลูก ลูกจงตั้งใจฟังเสียงของธรรมชาติ”

 

Garruk อยู่ในป่ากว่า 7 ปี เขาสามารถสื่อสารกับสัตว์ต่างๆ ได้ และเขารับรู้แล้วว่า ตอนนี้พ่อของเขาไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป เขาออกมาจากป่า เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับพ่อของเขา หลังจากที่เขาทำมันได้สำเร็จ ด้วยการเรียกหนอนยักษ์มาถล่มบ้านของนายอำเภอที่ฆ่าพ่อของเขา

เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นครั้งแรก หลังจากที่เก็บกดความแค้นมานาน ความรู้สึกเติมเต็มเหล่านี้ ทำให้เขาได้ Spark และ Planeswalk ออกไปจากที่นี่

 

- เส้นทางของผู้ล่า สู่ผู้ถูกสาป -

หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติมาหลายปี Garruk ก็ได้ยินเรื่องราวของ Ogre ที่มีความทรงพลังที่ Plane Shandala

แน่นอนว่าผู้ล่าอย่างเขาต้องมองหาความท้าทาย เขาจึงเดินทางไปที่นั่น ระหว่างที่เขากำลังออกล่า สัตว์ของเขาก็ถูกฆ่าโดย “Liliana Vess” ที่มาที่นี่เพื่อภารกิจของเธอ

Garruk โกรธมาก จึงล่า Liliana แทน แม้ว่าความสามารถของ Garruk จะเหนือกว่า Liliana เป็นอย่างมาก 
แต่ทว่า ในตอนนั้น Liliana ได้วัตถุทรงพลังอย่าง Chain Veil มาเรียบร้อยแล้ว… และ Garruk ก็ตกเป็นเหยื่อของ Chain Veil

 

สิ่งที่ Chain Veil ทำกับ Garruk ไม่เพียงแค่ความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่มันยังทำให้สัตว์ที่เขาเรียกออกมาหายตัวไปทันที ส่งผลให้ Liliana หนีไปได้

สิ่งที่ Garruk คิดอย่างเดียวคือ เขาจะต้องฆ่า Liliana เพื่อหยุดคำสาปนี้ให้ได้ เขาเดินทางหาเธอ และยอมทำงานสกปรกทั้งหลายเพื่อแลกกับเบาะแส จนเขารู้ว่า Liliana อยู่ที่ไหน

 

- ความบังเอิญที่ Innistrad -

Garruk เดินทางตามล่า Liliana มาถึงที่ Innistrad ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังจะกำจัดปีศาจอย่าง Griselbrand ที่นี่

ทว่า แม้เขาจะเจอตัว Liliana แต่ฝูงผีดิบของเธอก็เข้ามาขวางทาง จนอาการของคำสาปรุนแรงขึ้นอีกครั้ง 

ในตอนนี้ Garruk ขาดสติไปแล้ว ในตอนนี้ อะไรก็ตามที่เข้ามาขวางทางเขา หมายความถึงความตายของสิ่งๆ นั้น…
 


Avacyn นางฟ้าผู้พิทักษ์ Innistrad


แต่ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี Avacyn ที่เป็นนางฟ้าดูแล Innistrad ได้ใช้เวทย์มนต์ที่มีชื่อว่า Cursemute เนื่องจากสถานการณ์ของ Innistrad ในช่วงเวลานั้น เต็มไปด้วยความไม่ปกติของเหล่ามนุษย์หมาป่า และวิญญาณทั้งหลาย

 

เวทย์มนต์ Cursemute ไม่เพียงทำให้มนุษย์หมาป่า และสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายสงบลง แต่มันยังช่วยให้คำสาปที่ส่งผลกับ Garruk ลดความรุนแรงลงด้วย

Garruk กลับมาได้สติอีกครั้ง และรับรู้ถึงเวทย์มนต์ที่ทรงพลังของ Avacyn เขาจึงเลือกที่จะไปหานางฟ้า ด้วยความหวังที่จะถอนคำสาปนี้ออก… แต่ทว่า คำสาปก็กลับมากำเริบอีกครั้งก่อนที่เขาจะได้เจอ Avacyn
ความอยากล่าของเขากลับมาบดบังประสาทสัมผัส และเป้าหมาย เขาจึงออกไปจาก Innistrad ด้วยมือเปล่า

 

- นักล่าผู้อยู่เหนือห่วงโซ่แห่งความตาย -

ตอนนี้ Garruk กลายเป็นสัตว์ประหลาดแบบที่หลายๆ คนเคยมองเขาไว้เรียบร้อยแล้ว ความสามารถในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติของเขาลดน้อยถอยลง แต่ความอยากล่าของเขามันกลับทวีคูณมากยิ่งขึ้น

แม้ในตอนแรก เขาต้องการเพียงชีวิตของ Liliana แต่ด้วยสติที่เลือนลางของเขา ตอนนี้ Planeswalker ทุกตัวกลายเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว 

เส้นกั้นระหว่างนักล่า กับฆาตกรได้ถูกลบไปจนสิ้น… ก่อนที่เพื่อนเก่าของเขาจะตามมาด้วยความหวังที่จะช่วย Garruk ออกจากคำสาป

 

Jace ได้ใช้กลวิธีในการเอาหินดูดซับพลังอย่าง Hedron ฝังเข้าไปในร่างของ Garruk และมันก็ได้ผล 

Garruk กลับมาได้สติ คำสาปของ Chain Veil ก็ถูกดูดซับไปบางส่วนด้วย…

 

แต่ Garruk กลับพบว่า เขามีความสุขกับการ “ล่า” Planeswalker ไปเสียแล้ว ซึ่งนั่น ทำให้ Jace ที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้เท่าใดนัก จำเป็นต้องปล่อย Garruk ให้ออกล่าต่อไป ไม่เช่นนั้น ตัว Jace ก็คงได้กลายเป็นเหยื่อให้เพื่อนเก่าคนนี้เป็นแน่แท้

 

- คำสาปภายใต้การสะกด -

Garruk Planeswalk ไปเรื่อยๆ และออกล่า Planeswalker คนแล้วคนเล่า จนกระทั่ง เขาไปเจอกับ Oko ที่เป็น Planeswalker ใน Plane Eldraine

ทว่า Oko นั้น ไม่ได้ไร้ความสามารถ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสะกดจิต และทำให้ Garruk กลายมาเป็น “สุนัขรับใช้” ของเขา…
 


Oko จอมเจ้าเล่ห์


เป้าหมายของ Oko จอมเจ้าเล่ห์นั้น คือการสร้างความปั่นป่วนในการปกครองของ Eldraine เพื่อให้ตนเองขึ้นไปมีอำนาจแทน 

อาจจะเพราะด้วยความที่ Eldraine เป็น Plane ที่มีรูปแบบการปกครองซับซ้อน และมีปัจจัยมากมายที่จะทำให้เกิดสงครามระหว่างกัน (มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องแนวคิดในการปกครอง เผ่าพันธ์ุ วัฒนธรรม ฯลฯ)
Oko
จึงคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะสร้างความไม่สงบใน plane แห่งนี้

 


Will, Rowan Kenrith


ในระหว่างที่ “คู่หู” Oko และ Garruk เดินทางไปด้วยกัน ก็ได้พบกับ Will และ Rowan Kenrith กำลังโดนโจมตีจาก Goblin อยู่ Garruk จึงเข้าไปช่วย และร่วมเดินทางไปด้วยกัน… นั่นก็เพราะ เป้าหมายของ Oko คือพ่อของ Will และ Kenrith… กษัตริย์ Algenus Kenrith

 

Oko จัดการลักพาตัวกษัตริย์ไป และสาปให้เขากลายเป็นกวาง… เพื่อที่จะยืมมือชนเผ่าป่า (The Wilds) ของ Eldraine มาฆ่ากษัตริย์ และก่อให้เกิดสงครามระหว่างอาณาจักร

 

เพราะในตอนนั้น มันช่างเป็นเวลาประจวบเหมาะกับเทศกาลการล่าสัตว์ของชนเผ่าป่าพอดี ที่จะมีเส้นทางการเดินป่าเหมือนเดิมทุกๆ ปี และสัตว์ตัวใดที่อยู่ในเส้นทางล่า จะต้องถูกฆ่า เพราะเป็นความเชื่อของชนเผ่าป่า ถ้าหากมีการตายของสัตว์ในการเทศกาลการล่าแล้ว จะไม่มีใครต้องสูญเสียในปีนั้น และเป็นการเชื่อมโยงพลังของธรรมชาติอีกด้วย
 


เทศกาล Wildshunt


ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของ Oko เขายังให้ Garruk ไปจับตัวคนสนิทของ Will และ Kenrith มา และวางแผนจะจับตัวทายาทของกษัตริย์เพื่อเป็นแผนสำรอง 

ซึ่งทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนของ Oko

 

แม้ว่า Garruk จะโดนคำสาป และการสะกดใจ แต่ความสามารถในการเชื่อมโยงกับสัตว์ต่างๆ ก็ไม่ได้หายไปไหน ดังนั้นแล้ว สัตว์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับ “นักโทษ” (ทายาทกษัตริย์ และคนสนิท) จึงมีความสงบ และนิ่ง จนทุกๆ คนสังเกตได้

 

Will Kenrith ได้พูดคุยกับ Garruk และทราบว่า Garruk น่าจะโดนคำสาป และหิน Hedron ที่ฝังอยู่นั้น คือสาเหตุของคำสาป

Will จึงเสนอตัวที่จะเอา Hedron ออกให้ ซึ่ง Garruk ที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้อย่างมีสตินัก ก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอ
 


ทันทีที่ Hedron ถูกถอดออกจากร่าง คำสาปจาก Chain Veil ก็แสดงอานุภาพของมันทันที

Garruk ที่เคยสงบได้จากการสะกดใจของ Oko ก็กลับมาบ้าคลั่งอีกครั้ง สัตว์เลี้ยงของนักโทษเข้ามาโจมตีเขา

แต่คำสาปในตอนนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อ Garruk เขาจับสัตว์ที่เข้ามาโจมตีเขา คำสาปไหลผ่านร่างของเขาไปสู่สัตว์ตัวนั้น และมันเริ่มคลั่ง…

 

ความเจ็บปวดจากคำสาป และภาพที่เขาเห็นสัตว์ทรมานอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาได้สติ และกลับมาเป็น “นักล่า” เขาส่งสัตว์ตัวนั้นไปสู่ความสงบ ด้วยการฆ่าอย่างปราณี 

สามัญสำนึกที่เขาได้กลับมา มันถึงเวลาที่จะจัดการกับตัวต้นเหตุแล้ว เขาหันกลับไปเพื่อจะโจมตี Oko แต่ก็ถูกเถาวัลย์ที่ Oko เสกขึ้นมาขัดขวางไว้

 

แม้เถาวัลย์จะชะลอความเกรี้ยวกราดของ Garruk ได้ แต่ก็ไม่นานนัก เขาตามล่า Oko ได้อย่างรวดเร็ว และตามมาติดๆ ด้วย Will และ Kenrith

แต่ก่อนที่จะได้ตัว Planeswalker แสนเจ้าเล่ห์ เขาต้องผ่านแม่น้ำสายหนึ่ง…
 


 

แม่น้ำที่เต็มไปด้วย Undine หรือเผ่าครึ่งคนครึ่งปลา (ที่อื่นจะเรียก Merfolk) Garruk ที่กระโดดลงไปในแม่น้ำแล้ว ก็กลับตัวไม่ทัน เขาโดนรุมทึ้งจากเหล่า Undine แต่ด้วยคำสาปจาก Chain Veil ที่ส่งพลังอันดำมืดออกมา ทำให้พวก Undine แยกตัวไปคนละทิศละทาง คำสาปมันกำเริบอีกแล้ว…

 

Garruk กระโดดขึ้นจากน้ำ แล้วพุ่งใส่ฝาแฝด Will, Kenrith ทันที…

ทั้งคู่คิดว่า Garruk กำลังจะโจมตีพวกเขาแล้ว แต่ทว่า Garruk กลับวิ่งผ่านไป และโจมตีตัวประหลาดที่ตามฝาแฝดทายาทกษัตริย์มาอีกที!

 

สัตว์ประหลาดสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว กับร่างกายที่บอบช้ำของ Garruk… เขาต้องข้ามแม่น้ำอีกครั้ง

แต่บาดแผลจากการต่อสู้ก็ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ 

 

Garruk จมดิ่งลงไปในน้ำ ฝูง Undine กลับมาโจมตีเขาอีกครั้ง ตอนนี้เขาจมลงไปลึกเกินกว่าที่เขาว่ายกลับขึ้นมาเองได้... 

Will เห็นดังนั้นจึงกระโดลงไปช่วย เขาได้ตัว Garruk แล้ว แต่ทว่า… มันไกลจากผิวน้ำเหลือเกิน Will ผู้มีความสามารถในการใช้เวทย์มนต์น้ำแข็ง เขาเสกน้ำแข็งเพื่อให้มันดันตัวเขากับ Garruk ให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำให้ได้…
 


Claudron of Eternity


แต่ทว่า มันสายเกินไปแล้ว Will หมดสติก่อนที่จะถึงผิวน้ำ…

 

ทันใดนั้น Garruk รู้สึกได้ถึงแรงดึงบางอย่าง… ภาพที่เขาเห็นคือหม้อขนาดใหญ่… ใหญ่ขนาดที่จะใส่คนลงไปได้ แต่มันกลับลอยขึ้นมาจากใต้น้ำ มันส่งเสียงกระซิบกับ Garruk ว่า “เขาคือ ผู้ที่คู่ควร” แล้วก็ดูดซับคำสาปจาก Chain Veil และมอบชีวิตใหม่ให้กับ Garruk อีกครั้ง…

 

Garruk กลับขึ้นมาสู่ผิวน้ำ และ Will ก็เช่นกัน แม้ว่าเขาจะหมดสติไปชั่วครู่ก็ตาม

ในตอนนี้คู่ฝาแฝดได้ขอร้องให้ Garruk ช่วยเหลือพวกเขาตามหาพ่อที่พวกเขาเห็นนิมิตรจากกระจกวิเศษ ว่าตอนนี้พ่อของพวกเขากลายเป็นกวางไปแล้ว ก่อนที่จะโดนฆ่าในเทศกาลล่าของเหล่า The Wilds

 

Garruk ผู้เคยสูญเสียพ่อไป เข้าใจความรู้สึกของฝาแฝด และรับคำขอนั้นทันที ทั้งสามเดินทางไปจนเจอกวางที่มีความสง่างาม และมั่นใจว่านั่นคือกษัตริย์ผู้ถูกสาปนั่นเอง

แต่เหล่าเอลฟ์ผู้ดำเนินเทศกาลล่า ก็มาถึงเช่นกัน พวกเขาเข้าปะทะกัน รวมถึงบรรดาอัศวินจากเมืองหลวงด้วยเช่นกัน

 

ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น Oko ที่แอบดูอยู่ เห็นท่าไม่ดีแล้ว จึงแปลงกายตัวเองเป็น Ayara ที่เป็นผู้นำเผ่าพันธ์ุเอลฟ์ และแผลงศรเข้าปักกลางอกของกวางตัวนั้น…
 


Algerus Kenrith ที่โดนสาป


Garruk รับรู้ได้ว่านั่นคือ Oko เขาเข้าโจมตี Oko ทันที

Oko พยายามจะแปลงกายเป็นนก เพื่อบินหนี แต่ก็โดน Griffin ของอัศวินจากเมืองหลวง และการโจมตีด้วยเวทย์มนต์จาก Will และ Kenrith จนร่วงลงมา

 

Garruk เข้าหาร่างที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น หมายจะปลิดชีพจอมฉ้อฉล แต่ Kenrith ก็เข้ามาห้ามไว้… 
การขัดจังหวะแค่นั้น ก็เพียงพอให้ Oko หนีไปจาก Eldraine ได้แล้ว

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้ Garruk ได้รู้ความจริงอีกอย่าง… แฝด Will และ Kenrith เป็น Planeswalker และพวกเขา Planeswalk ตาม Oko ไปทันที
 


ครอบครัว Kenrith
 

ในตอนแรกนั้น Garruk เลือกที่จะตามล่า Oko แต่เขาระลึกถึงตอนที่ Will เสี่ยงชีวิตช่วยเขาจากการจมน้ำตาย เขาจึงเปลี่ยนใจ และให้คำสัญญากับผู้ปกครองของคู่ฝาแฝด ว่าเขาจะตามไปดูแลทั้งคู่เอง ก่อนที่จะ Planeswalk ตามรอยของทั้งคู่แทนที่จะตามล่า Oko

 

ก็จบกันไปสำหรับเรื่องราวของ Garruk Wildspeaker นะครับ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และทุกๆ การติดตามครับ