"ไฟมันไม่ติดเองตามธรรมชาติหรอก... ถ้าอยู่ๆ คุณไฟลุกขึ้นมา ก็ให้รู้ไว้ว่า มีคนอยากเผาคุณ"
Chandra Nalaar เป็น Planeswalker มนุษย์เพศหญิง มีความสามารถในการควบคุมพลังไฟ (Pyromancer)
Chandra มีลักษณะนิสัยเป็นคนมุทะลุ ใช้อารมณ์เป็นหลัก รักเพื่อน พวกพ้อง และครอบครัวของเธอ ซึ่งเป็นลักษณะของสีแดงในเกม Magic the Gathering
เมื่อเธอใช้เวทย์มนต์ ผมของเธอจะเปลี่ยนเป็นไฟ และดวงตาแปล่งแสงสีแดง เมื่อเธอ Planeswalk จะหายตัวไปในพายุเพลิง
Chandra ในวัยเด็ก
Chandra เธอเกิดที่ Kaladesh โดยเธอเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมไฟตั้งแต่เด็กๆ เลย
ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดปัญหาต่อครอบครัวของเธอ…
เพราะที่ Kaladesh นั่น มีแหล่งพลังงานที่ชื่อว่า Aether ที่เป็นพลังงานหลัก การมีพลังงานฟรี อย่างการใช้ไฟจากพวก Pyromancer จึงถือเป็นเรื่องต้องห้าม และนั่นก็นำไปสู่โศกนาฏกรรมของครอบครัว Nalaar…
พ่อแม่ของ Chandra อย่าง Kiran Nalaar กับ Pia Nalaar ทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพียงบุคคลธรรมดาๆ บน Kaladesh
พวกเขายังลักลอบขนส่ง Aether เพราะความเชื่อที่ว่า พลังงานต้องเป็นของทุกๆ คน ไม่ใช่ผ่านการจัดสรรจากรัฐบาล
แต่ทว่า หลักฐานต่างๆ ที่รัฐบาล Kaladesh มีก็ยังไม่เพียงพอต่อการจับกุมพวกเขา
การมี Chandra จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลจะจับกุมตระกูล Nalaar ในข้อหา “เป็น Pyromancer” ที่เป็นศาสตร์ต้องห้ามที่ Kaladesh
Pia และ Kiran Nalaar
พวกทหารของรัฐบาลได้เข้าไปที่ชุมชนของ Chandra และลอบวางเพลิงทั้งชุมชน เพื่อที่จะโยนความผิด และสร้างภาพความ “เป็นอันตราย” ของ Pyromancer…
ไฟที่แผดเผาไปทั้งหมู่บ้าน
ประชาชนแตกฮือไปคนละทิศละทาง
แต่สุดท้าย ทหารก็ได้ตัว Chandra มาในที่สุด
พวกเขาพาเธอไปที่ลานประลองกลางเมือง เพื่อที่จะประหารเธอต่อหน้าประชาชน…
พายุเพลิงที่หมู่บ้านของเธอ ถูกป่าวประกาศว่ามันเป็นความผิดของเธอ
Baral เจ้าหน้าที่ของฝ่าย Consulate ที่ดูจะไม่ชอบตระกูล Nalaar เป็นการส่วนตัว
Baral ผู้ที่เป็นหัวหน้าหน่วย “จับกุม” พาตัว Chandra มากลางลานประลอง ที่กำลังจะกลายเป็นลานประหาร
เขาเงื้อดาบในมือขึ้น…
กับความตายที่กำลังจะมาถึง Chandra ได้รับ Spark และ Planeswalk ไปด้วยความหวาดกลัว… ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ Regatha
- อารามแห่งเพลิง -
การที่ Chandra ได้ Planeswalk ไปที่ Regatha นั้น ราวกับโชคชะตาจะเข้าข้างเธอ
ที่แห่งนี้มีสถานที่ที่เรียกว่า Keral Keep อันเป็นสถานที่ฝึกวิชาของเหล่า Pyromancer ภายใต้การดูแลของ “Jaya Ballard” ผู้มีความชำนาญในศาสตร์แห่งการควบคุมไฟ และมีแนวคิดที่จะให้อิสระแก่ผู้เรียนอย่างเต็มที่ ตราบใดที่ไม่ไปยุ่งกับอิสระของผู้อื่น แต่ทว่าตอนนี้ กลับไม่มีใครทราบว่า Jaya ได้หายไปไหน
และถ้าเพื่อนๆ จำได้ ในเนื้อเรื่องของ “Jace Beleren” นั้น Chandra ได้ขโมยเอาคัมภีร์บางอย่างมา ซึ่งคัมภีร์นั้นก็คือ “Dragon Scroll” หรือคัมภีร์แห่งมังกร ก็เป็นช่วงเวลาที่ Chandra พึ่งมาถึงที่ Regatha นั่นเอง
ซึ่งเนื้อหาในคัมภีร์นั้น จะบอกใบ้ให้ผู้ที่พบเจอไปที่ Zendikar จึงทำให้ทั้ง Jace และ Chandra ไปเจอกันที่นั้น อีกครั้งนั่นเอง
หลังจากเรื่องราวการแย่งชิงคัมภีร์จบลง Chandra ก็ได้มาเจอ Keral Keep และกลายเป็นลูกศิษย์ของสำนักแห่งนี้เช่นกัน
แต่ทว่า แม้จะอยู่ถูกที่ แต่ก็ผิดเวลาไปสักหน่อย เพราะในตอนที่เธอได้เข้ามาศึกษาวิชานั้น เป็นช่วงที่เหล่าพ่อมดขาว (Hieromancer) พยายามจะรวมดินแดน Regatha ให้เป็นหนึ่ง ภายใต้กฏ และการควบคุมขององค์กรของพวกเขา
ด้วยแผนการรบของเหล่าพ่อมดขาว ที่ไล่ไปตั้งแต่ดินแดนของตัวเอง ผ่านป่า และเข้าสู่ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของ Keral Keep ทำให้เกิดการร่วมมือระหว่างผู้อาศัยอยู่ในป่า กับนักเวทย์เพลิงแห่ง Keral Keep
แม้ว่าการรวมพลังของทั้งสองฝ่าย จะช่วยทำให้การรุกรานของพ่อมดขาวหยุดไปได้ แต่ทว่า การใช้พลังไฟในพื้นที่ป่า ก็ทำให้เกิดไฟป่า และสร้างความเสียหายอย่างมาก… ก็แน่นอนว่า ไปจบกันที่การไม่ลงรอยระหว่างคนป่ากับนักเวทย์ไฟ
หนึ่งในบุคคลที่ถูกหมายหัวก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Chandra ของเรา ที่แสดงพลังโดดเด่นเกินไป ชาวป่าจึงตั้งค่าหัวเธอ แถมพวกพ่อมดขาวยังไล่ล่าเธออีกแรง…
จากสถานการณ์นี้ พระแม่ Luti ที่ตอนนี้เป็นผู้ดูแล Keral Keep จึงมีความเห็นว่า การให้ Chandra หายตัวไปสักพัก น่าจะเป็นการดีต่อ Keral Keep และตัวของเธอเอง
พระแม่ Luti จึงส่งเธอออกไปตามหาคัมภีร์ที่ Jace ได้เอาไปจากเธอก่อนหน้านี้
แต่ทว่า เมื่อเธอไปถึง นอกจากจะไม่ได้คัมภีร์มาแล้ว ยังต้องไปปะทะกับกลุ่มทหารที่ดูแลวิหารที่เป็นเป้าหมายของเธออีกด้วย
ในขณะที่เธอเริ่มเสียเปรียบ เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากทหารที่มีชื่อว่า “Gideon Jura”...
ที่ภายหลังกลับกลายเป็นว่า เขาเพียงแค่ต้องการจับตัวเธอเหมือนกับทหารคนอื่นๆ เท่านั้น
Chandra พยายาม Planeswalk หนีจากสถานการณ์ที่เริ่มยุ่งเหยิง และเธอก็ไปโผล่ที่ Diraden ที่มีแต่ความมืด และราตรีนิรันดร์…
Gideon ตามเธอมาติดๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะโดนจับตัวไปโดยเจ้าชายแวมไพร์ Velrav ซึ่งก็ไม่คณามือ Planeswalker ทั้งสองคน และสามารถจัดการสังหาร Velrav ลงได้ และทำให้ Diraden ที่มีแต่ความมืดมิดนั้น กลับสู่สภาวะปกติทันที
ระหว่างที่อยู่ที่ Diraden การร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับคัมภีร์ ทำให้รู้ความจริงที่ว่า คัมภีร์นั้นควรจะอยู่ที่ Zendikar อันเป็นสถานที่ดั้งเดิมของมัน แต่อย่างไรก็ดีในตอนนี้ทั้งคู่ต้องกลับไปที่ Regatha ก่อน
เมื่อกลับมาถึง Regatha แล้ว Chandra ก็พบว่า Keral Keep สำนักฝึกตนของเธอ กำลังเสียเปรียบในศึกกับองค์กรของเหล่าพ่อมดขาว
ตัว Gideon เอง ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับพ่อมดขาวก็กลับไปทำหน้าที่ของเขา… นั่นคือสร้าง “สันติ และความเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้กฏหมายเดียวกัน”
ส่วน Chandra ก็ต้องกลับไปป้องกันสำนักของเธอ ซึ่งนั่นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะทำให้ทั้งสองคนต้องปะทะกันในศึกครั้งนี้
แต่ทว่ากองกำลังของเหล่าพ่อมดขาวนั้นมีมากกว่า ก่อนที่ Keral Keep จะล่มสลาย Chandra จึงได้ยอมแพ้ และยอมให้พวกเขาจับตัวเธอไป… เพื่อแลกกับการปล่อยให้ Keral Keep เป็นอิสระ และเธอต้องยอมเข้าสู่กระบวนการ “ชำระล้าง”
กระบวนการที่ว่านั้นคือการใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า ไฟแห่งการชำระล้าง (Purifying Fire) ที่จะชำระจิตวิญญาณของผู้ใช้ จากความบาป และความไม่ปกติทั้งปวง
ทางฝั่งพ่อมดขาวเชื่อว่ามันจะชำระล้างพลังแห่งการควบคุมไฟในตัวของ Chandra และจะทำให้เธอหมดพลังลง สร้างความสิ้นหวังให้แก่บรรดาผู้ต่อต้านที่เหลือ และทำให้การควบคุมของพวกเขาเป็นไปได้ง่ายขึ้น
กระนั้น Gideon ก็บอกเธอว่า ถ้าหากบุคคลที่จะถูกชำระล้าง เข้าไปด้วยจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ ไฟก็จะไม่ทำอันตรายใดๆ แก่คนๆ นั้น
Chandra จึงได้เล่าเรื่องในวัยเด็กของเธอ (ที่เราเล่าไปตอนนั้นนั่นเอง) ให้ Gideon ฟัง ก่อนที่จะถูกชำระล้าง
ซึ่งสิ่งที่ Chandra เลือกทำนั้น น่าจะเพียงพอต่อการสร้างจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ให้กับไฟแห่งการชำระล้าง เพราะเมื่อเธอเดินเข้าสู่ไฟแห่งการชำระล้าง… เวทย์มนต์ที่พ่อมดขาวใช้เพื่อกักขังเธอ กลับเป็นสิ่งที่ถูกทำลาย Chandra กับไฟได้รวมกันเป็นหนึ่ง
เธอได้รับพลังใหม่จากมัน ไม่ได้ถูกทำลายจิตวิญญาณอย่างที่ถูกคาดหวังไว้โดยพ่อมดขาว…
เมื่อเธอได้รับอิสระ เธอจัดการกับเหล่าพ่อมดขาว และทำลายโถงวิหารแห่งนั้นจนเป็นซากปรักหักพัง…
Gideon โกรธที่เธอทำร้ายเหล่าพ่อมดขาวจนแทบสิ้น แต่ Chandra ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย…
เธอเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง และจะออกตามหา Zendikar ที่เป็นต้นเรื่องของ Dragon Scroll
และถาม Gideon กลับไปว่าความตายของหมู่บ้านคนป่า การบุกรุกอารามของผู้ใช้วิชาเพลิง เพื่อสร้าง “สันติ และความเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้กฏหมายเดียวกัน” นั้น มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้จริงๆ หรือ?
ซึ่งส่วนตัวเธอนั้น มองคนที่ต้องการควบคุมคนอื่นให้เป็นไปตามกฏของตัวเองนั่นแหละ คืออริของเธอ และเธอพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อกำจัดศัตรูของเธอ… ซึ่งนั่นก็ทำให้ Gideon ได้ฉุกคิด ก่อนที่ Chandra จะ Planeswalk ออกไป
- สู่วิหารแห่งดวงตา Ugin -
แม้ว่าเธอจะมาถึงที่ Zendikar แต่เธอก็แทบไม่เจอเบาะแสอะไรนอกจากเธอต้องตามหาแวมไพร์ที่ชื่อ Anowon เท่านั้น
สามปีผ่านไป เธอก็สืบจนเจอตัว Anowon และเขาก็ยินยอมที่จะนำทางเธอไปสู่วิหาร Eye of Ugin…
ก่อนที่เจ้าแวมไพร์จอมหักหลังจะพยายามฆ่าเธอเพื่อขโมยสมบัติของเธอไป
แต่ทว่า “Sarkhan Vol” ก็เข้ามาช่วยเธอ… ก่อนที่ Chandra จะพบว่า Sarkhan นั้น มาเพื่อจะขัดขวางไม่ให้เธอไปถึงวิหารได้ หลังจากที่ปะทะกันเล็กน้อย Chandra ที่เหนือกว่า ก็ทำให้ Sarkhan ยอมรับได้ และยอมนำทางเธอไปสู่วิหาร
ระหว่างทาง Sakhan ก็อธิบายว่า Dragon Scroll และ Eye of Ugin นั้นมีไว้เพื่ออะไร ซึ่ง Chandra รู้สึกว่า มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย เธอเลยเลิกสนใจมัน และกำลังจะออกไปจากที่นี่… Sarkhan กลับแปลงเป็นมังกร และเข้าโจมตีเธอ (เราจะเล่าสาเหตุในตอนของ Planeswalker’s Profile : “Sarkhan Vol” ในภายหลังนะครับ) ก่อนที่ “Jace Beleren” จะเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ และเมื่อจบเรื่อง ทั้งสองก็แยกย้ายกันไป
Ramaz ผู้ที่สื่อสารกับมังกรได้
Chandra ที่ในตอนนี้ รู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้โดย พระแม่ Luti ที่ให้เธอไปตามหาคัมภีร์มังกร ก็ได้รู้ความจริงว่า มันมาจากการว่าจ้างของ Ramaz ผู้เป็นหมอผีที่สื่อสารกับมังกรได้
Chandra ตามล่าเขา ก่อนที่จะพบว่า เขาเสียสติไปแล้ว และทำตามเสียงคำสั่งในหัวของเขาเท่านั้น
- ยศฐา ณ อารามแห่งไฟ -
Chandra เลือกที่จะกลับไปที่ Keral Keep เพื่อจะเรียนรู้วิชา Pyromancy เพิ่มเติม เป็นเวลาพอสมควร ก่อนที่พระแม่ Luti จะเสียชีวิตไป
เธอเองจึงถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าอารามแห่งนี้แทน แม้ว่าเธอจะเหนื่อยหน่ายกับการถูกเปรียบเทียบกับพระแม่ Luti ตลอดเวลา
แต่การมาถึงของ Jace และ Gideon ที่ตอนนี้พบภัยจาก Eldrazi ที่ Zendikar และพยายามขอความช่วยเหลือจากเธอ กลับทำให้เธอตัดสินใจแบบตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิด
เพราะเธอเชื่อว่า ถ้าเป็นพระแม่ Luti เธอจะต้องช่วยเหลือเพื่อนของเธอแน่นอน…
Chandra ที่เหนื่อยหน่ายกับการถูกเปรียบเทียบ จึงเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือพวกเขา เพียงเพราะอยากจะตัดคำครหา และข้อเปรียบเทียบกับพระแม่ Luti เท่านั้นเอง
Jace และ Gideon ก็ไม่ได้ทิ้งความหวัง พวกเขาก็บอกกับเธอว่า ถ้าเปลี่ยนใจ ให้ตามมาด้วย…
- ตามคำเรียกร้องของหัวใจไปที่ Zendikar -
Chandra อดทนกับการตัดสินใจที่ขัดกับหัวใจของเธอได้ไม่นานนัก สุดท้ายก็เลือกที่จะตามเพื่อนของเธอไปที่ Zendikar และสามารถช่วยเหลือทั้ง Jace, Gideon และ "Nissa Revane" จาก “Ob nixilis”
เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เกิด Gatewatch ที่เป็นร่วมมือระหว่าง Planeswalker เพื่อดูแลภัยระดับ Multiverse โดยคำสัตย์สาบานของ Chandra ก็คือ “ถ้าสิ่งนี้ จะทำให้ทุกคนมีอิสระ ฉันจะคอยดูแล”
คำสาบานของ Chandra
ก่อนที่ทั้ง 4 คนจะเข้าร่วมศึกกับ Eldrazi อีกครั้ง ที่ในศึกครั้งนี้ Chandra จะต้องร่วมมือกับ Nissa ผ่านทางการเชื่อมโยงทางจิตด้วยความช่วยเหลือจาก Jace ทั้งสองคนรวมใจเป็นหนึ่งในศึกครั้งนี้ และเป็นหัวใจหลักในการปราบเหล่า Eldrazi Titan ลง
ส่วนในศึกกับ Emrakul ที่เป็น Eldrazi Titan อีกตัว ที่ Innistrad นั้น Chandra กับ Gideon เป็นฝ่ายช่วยกำจัดเหล่า Eldrazi Scion และพวกกลายพันธุ์ ในระหว่างที่เพื่อนๆ ที่เหลือพยายามผนึก Emrakul
- กลับสู่บ้านเกิด สู่ Kaladesh -
ถ้าเรายังจำกันได้ ในตอนของ Jace และ Liliana นั้น ทีม Gatewatch ได้ถูกเชิญไปดูแลงานที่ Plane Kaladesh แต่ทีม Gatewatch ก็ปฏิเสธคำเชิญนั้น
ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับ Chandra เพราะเธออยากจะกลับบ้านของเธออยู่เหมือนกัน ในความเสียใจนั้น เธอมองหาเพื่อนที่เธออยากจะพูดคุย เธอตามหา Nissa แต่กลับได้พบกับ Liliana แทน…
Liliana ก็แน่นอนว่าร่วมเดินทางไปกับ Chandra ตามเรื่องราวในตอนของ Liliana
ภาพของ Kiran พ่อของ Chandra
เมื่อไปถึง Kaladesh ตัว Chandra เองก็พบกับภาพกระเบื้อง ที่เป็นรูปของพ่อของเธอ ทำให้เธอรู้ว่า พ่อของเธอนั้น เสียชีวิตไปแล้ว และมีขบวนการที่พยายามล้มรัฐบาลตามมาจากการเสียชีวิตขิงพ่อเธอ
และทำให้ Liliana ได้จังหวะในการยุให้เธอเข้าร่วมกับการกบฏเพื่อแก้แค้น Baral ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยพยายามสังหารเธอ
ตอนนี้สถานการณ์ความไม่สงบในต่างๆ เมืองนั้น ทำให้ Chandra ได้เห็นคนที่คิดว่าเป็นแม่ของเธอ… ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้นำของเหล่า Renegades ที่เป็นฝ่ายกบฏในเมืองนั่นเอง
Chandra พยายามเข้าไปหาแม่ของเธอ แต่ก็ไม่ทันการ Pia Nalaar ถูกทางรัฐบาลจับตัวไปได้เสียก่อน
Pia Nalaar ถูกจับตัวไปโดยรัฐบาล Kaladesh
Nissa ได้ตามทั้ง Liliana กับ Chandra มาถึงที่ Kaladesh และต่อว่า Liliana ที่ยุให้ Chandra ทำอะไรที่บ้าบิ่นขนาดนี้ ทำให้ Liliana หนีออกไปตาม Jace และ Gideon โดยใช้ Tezzeret ที่ปรากฏตัวใน Kaladesh เป็นเหตุผลเสริมความน่าเชื่อถือ
ในระหว่างนั้น ทั้ง Nissa และ Chandra ยังคงอยู่ที่ Kaladesh ก่อนที่จะถูกทักโดย Oviya Pashiri ที่ไม่เพียงรู้จักกับแม่ของ Chandra แต่ยังเป็นเพื่อนกับ “Ajani Goldmane” และเป็นสายให้ Ajani อีกด้วย เธอบอกกับทั้งคู่ว่า เธอจะช่วยแม่ของ Chandra ออกมาให้ได้…
Oviya Pashiri พันธมิตรของตระกูล Nalaar
ทั้งสามก็สืบเรื่องราวไปเรื่อยๆ จนกระทัง่ทราบว่าตอนนี้แม่ของ Chandra ถูกขังไว้ที่ไหน แต่ทว่า มันกลับกลายเป็นกับดัก พวกเธอทั้งสาม ถูกจับและขังให้ห้องที่จะเปลี่ยนอากาศให้กลายเป็นเป็นก๊าซพิษ เพื่อป้องกันการใช้ไฟของ Chandra และสังหารทั้งสามคน
Chandra ตระหนักว่า Gatewatch สำหรับเธอ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทีม Planeswalker เท่านั้น แต่เธอยกให้มันเป็นครอบครัวของเธอ และ Nissa ก็เป็น "คนสำคัญ" เธอจึงบอกให้ Nissa Planeswalk ออกไป และทิ้งเธอไว้กับ Oviya ที่ห้องแห่งความตายแห่งนี้…
แม้ Nissa จะตัดสินใจไม่ทิ้ง Chandra ไป โดย Nissa ให้เหตุผลที่ออกจะกระอักกระอ่วนนิดหน่อย ว่า "เธอก็จะไม่ทิ้ง... "เพื่อน" ของเธอเหมือนกัน"
แต่ทั้งสามก็ปลอดภัยจากการเข้าช่วยเหลือของ Ajani ที่มาได้จังหวะพอดี
หลังจากที่สามารถหนีออกมาจากห้องแห่งนั้นได้ ทีม Gatewatch ที่เหลือก็ตามมาสมทบพอดี
และได้ยินการประกาศการประหารหัวหน้ากบฏ หรือ Pia Nalaar แม่ของ Chandra ที่ลานประลองการเมือง… ลานประลองที่เดิม ที่เคยใช้เป็นลานประหาร Chandra ในวัยเด็กนั่นเอง
แต่ทว่า การประหารนั้น กลับเป็นการแขวนประจารแม่ของ Chandra ด้วยการให้เธอประลองกับ Tezzeret เพื่อที่จะสร้างความหวาดกลัวในความแตกต่างของพลังให้แก่บรรดากบฏที่เหลือ…
แต่ Chandra ก็เข้าไปขัดจังหวะ ก่อนที่สมาชิกทุกๆ คน จะปรากฏตัว และนั่นทำให้ Tezzeret ไม่มีตัวเลือก นอกจากจะหนีออกไป
เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มวุ่นวายและบานปลายไปเรื่อยๆ เหล่ากบฏออกมาต่อสู่กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลตามท้องถนน
Chandra เข้าร่วมการโจมตีของ Renegades เธอใช้พลังของเธอสังหารเหล่าทหารของ Consulate ซึ่งนั่น ทำให้ Gideon นึกถึงในวันที่เขายังคงเป็นทหารให้พ่อมดขาวที่ Regatha
Gideon เข้าไปห้าม Chandra และบอกกับเธอว่า เขาเองเคยเป็นเพียงทหารที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น และคนเหล่านี้ก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้มีความผิด เขาแค่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น
นอกจากนี้ การที่พวกเราก่อตั้ง Gatewatch ขึ้นมานั้น เราไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดสินการกระทำ การตัดสินใจของใคร
การที่ Chandra เข้าร่วมกับฝ่ายกบฏ แล้วทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะนั้น ก็ไม่ต่างกับการเป็นทรราชเข้าไปล้มล้างการปกครองดีๆ นี่เอง
Chandra จึงระลึกถึงคำสัตย์สาบานของเธอ… สิ่งที่เธอทำไม่ได้เป็นการปลดปล่อยผู้คนให้เป็นอิสระ แต่มันคือการชี้นำให้ผู้คนทำตามเธอ เธอจึงเลือกที่จะฟัง Gideon และพยายามลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด
แต่กระนั้น อีกหนึ่งครอบครัวที่เธอได้กลับคืนมาคือแม่ของเธอ ที่ตอนนี้เป็นถึงหัวหน้าของเหล่า Renegades อีกด้วย และนั่นก็ทำให้ Chandra เลือกที่จะสนับสนุนและคอยปกป้องแม่ของเธอ
ส่วนในมุมของทีม Gatewatch ที่ตอนนี้รู้ว่า Tezzeret ต้องการเพียง Planar Bridge ไปเพื่อใช้งานเท่านั้น ก็ออกตามล่าเขา
ส่วน Chandra และ Gideon ที่ตอนนี้คอยช่วยดูแลเธอ (Chandra) อยู่ สามารถช่วยเหล่า Renegades จนมีความได้เปรียบ และบรรลุเป้าหมายได้แล้ว ก็กลับมาช่วยทีม Gatewatch
เรื่องราวก็จบลงที่ ทีม Gatewatch สามารถทำลาย Planar Bridge ไปได้ ส่วน Tezzeret ก็หนีไปพร้อมกับเบาะแสเกี่ยวกับผู้ที่เป็นเจ้านายของเขา อย่าง "Nicol Bolas" และทำให้ทีม Gatewatch ตัดสินใจตามรอยไปที่ Amonkhet
ส่วนเรื่องราวใน Kaladesh ตอนนี้ Pia Nalaar ก็กลายเป็นหัวหน้าของ Consulate ส่วน Baral นั้นถูกจับขังคุกไปครับ
- ทะเลทรายแห่งชีวิตนิรันดร์ -
เนื้อเรื่องส่วนของ plane Amonkhet ทั้ง Liliana และ Jace จะเล่าไว้อย่างครบถ้วนแล้วนะครับ
ส่วน Chandra เอง ในศึกกับ Nicol Bolas นั้น แม้ว่าเธอจะเชี่ยวชาญในการใช้ไฟแค่ไหน ก็ไม่อาจเทียบทานอำนาจไฟของมักรที่แท้จริงได้ เธอจึงจำเป็นที่จะต้อง Planeswalk หนีไป ก่อนที่จะตายอยู่ตรงนั้น
- Dominaria กับความจริงที่ปรากฏ -
ในขณะที่ทุกๆ คน ในทีม Gatewatch นั้น ทุ่มสุดพลังเพื่อจัดการ Nicol Bolas ลง Liliana กลับเป็นคนที่หนีออกมาก่อนใครเพื่อน ทั้งๆ ที่ทุกคนช่วยเธอกำจัดปีศาจเจ้าของสัญญาทาสของเธอลง
Chandra ไม่เพียงแค่แคลงใจในเจตนาของ Liliana แต่ยังมีความเสียใจจากการที่เพื่อนสนิทอย่าง Nissa เลือกที่จะทิ้งกลุ่ม Gatewatch ไป ทำให้เธอโทษตัวเอง และเชื่อว่าเธอต้องการพลังมากกว่านี้
และเธอคิดว่า ทีมต้องการผู้ที่มีความสามารถเพิ่มเข้ามาในทีม คนที่เธอนึกถึงคือ Jaya Ballard และเริ่มออกตามหา Jaya…
ก่อนที่เธอจะพบว่า Jaya Ballard นั้น อยู่ข้างกายเธอมาตลอด… เพราะเธอคือคนๆ เดียวกับพระแม่ Luti ผู้ดูแล Keral Keep มาโดยตลอดนั่นเอง
แม้ในตอนแรก Jaya จะไม่อยากช่วยเหลือ Chandra แต่มีเหตุการณ์ที่ Chandra ได้แสดงให้ Jaya เห็นว่า เธอ (Chandra) สามารถควบคุมตัวเองได้ดีกว่าเดิมมากๆ ด้วยการสื่อสารกับพลังธรรมชาติ ที่เป็นเทคนิคที่เธอได้เรียนรู้มาจากการร่วมกันนั่งสมาธิกับ Nissa เมื่อครั้งก่อน ซึ่งก็ทำให้ Jaya ยอมรับ และร่วมเดินทางไปกับเธอ
ถึงแม้ Chandra, Jaya จะร่วมมือกันช่วย Liliana กำจัดปีศาจตัวสุดท้ายลงไปได้ แต่ Jaya เลือกที่จะไม่เข้าร่วมกับกลุ่ม Gatewatch โดยเธอให้เหตุผลติดตลกว่า “ไม่ค่อยชอบร่วมกลุ่มกับใคร” (เพราะเธอเป็นคนรวบรวมและฝึกเหล่า Pyromancer ทำไมจะไม่ชอบร่วมกลุ่มกับใครล่ะ จริงไหมครับ?)
อย่างไรก็ดี Jaya เองก็พร้อมที่จะเดินทางไปยัง Ravnica เพื่อช่วยเหลือเหล่า Gatewatch ในการจัดการกับ Nicol Bolas
- ศึกสุดท้าย ความเจ็บปวด และความโศกเศร้า -
ในศึกสุดท้ายที่ Ravnica นั้น Chandra ได้รับหน้าที่เป็นทีมที่จะไปปิด Immotal Sun เครื่องมือที่จะบังคับไม่ให้ Planeswalker สามารถ Planeswalk ไปที่อื่นๆ ได้
และเหล่า Planeswalker จะถูกดูดพลัง Spark ไปให้ Nicol Bolas เพื่อให้มันมีพลังระดับเทพเจ้าอย่างแท้จริง
แผนของทีม Chandra เป็นไปได้ด้วยดี ก่อนที่เธอจะได้พบภาพที่เจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด…
ร่างของ Gideon กำลังสลาย… ไปต่อหน้าต่อตาเธอ
Chandra ที่คิดว่า Liliana นั้น เป็นฝ่ายเดียวกับ Nicol Bolas… และร่างที่กำลังสลายไปของ Gideon ยืนอยู่ข้างๆ Liliana นั้น ทำให้ Chandra แทบขาดสติ
เธอเข้าโจมตีเพื่อจะสังหาร Liliana ก่อนที่จะถูก Jace ห้ามไว้ และอธิบายว่าความจริงแล้ว เป็น Gideon ที่ช่วย Liliana จากสัญญาปีศาจต่างหาก
ศึกนี้ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Nicol Bolas และ Chandra ก็ได้สารภาพรักกับ Nissa หลังจากเรื่องทุกอย่างหมดลง
แต่ว่า แม้ศึกนี้จะจบลงไปด้วยชัยชนะ… แต่ Chandra เธอไม่ได้มีความสุขกับการสูญเสีย Gideon
Gideon... คนที่เธอรู้สึกดีกับเขาจนเป็นมากกว่าพี่ชาย… อ้อมกอดของเขา ที่เธอคิดถึง... มันไม่มีอีกต่อไป...
เธอหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกโศกเศ้ราของการสูญเสีย… ไม่เพียงแค่ Gideon แต่ทุกๆ ชีวิตที่เธอไม่สามารถช่วยพวกเขาจากเงื้อมมือแห่งความตายได้
เธอโทษตัวเองมากขึ้นๆ เริ่มผลักดันความรู้สึกเหล่านั้นข้ามไปสู่ความโกรธ ความเกลียด ทุกๆ คนที่ร่วมมือกับ Nicol Bolas
และการที่เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ ทำให้ความสัมพันธ์กับทุกๆ คน เริ่มเหินห่าง
จนสุดท้าย Chandra ก็เหลือเพียงตัวเอง อยู่เพียงลำพัง กับความโกรธเกรี้ยวในจิตใจ เธอเริ่มมองหาหนทางแห่งการแก้แค้น
เธอตามล่าทั้ง “Dovin Baan” ที่ทำงานให้ Bolas และหลอกให้เธอไปที่ Kaladesh
เธอตามล่า Liliana ที่ทำให้ Gideon ต้องตาย
เธอตามไปถึงสถานที่ ที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ อย่างวิหารของ Bolas ที่ Amonkhet เธอปลดปล่อยพลังของเธอ จนวิหารนั้นพังทลายจนสิ้น…
เธอเริ่มมองเห็นตัวเอง… ในแบบที่เธอไม่อยากเห็น… เธอรู้ว่าตอนนี้ เธอต้องการความช่วยเหลือแล้ว
Chandra ไปหา Ajani เพราะเธอรู้ว่าเขาสามารถให้คำปรึกษากับเธอได้
ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง Ajani ผู้มีประสบการ์ของการหมกหมุ่นกับแก้แค้น เขาคอยให้คำแนะนำแก่ Chandra และให้เธอลองกลับไปหาครอบครัวของเธอ... Pia Nalaar มารดาของเธอ ที่ Kaladesh
แต่ทว่า เมื่อทั้งคู่มาถึง กลับพบกับ “Tibalt” Planeswalker ครึ่งคนครึ่งปีศาจ… มันคือตัวอันตรายที่อยู่เบื้องหลังความเกรี้ยวกราดของ Chandra
Tibalt มันมองเห็นความเจ็บปวดของสรรพสิ่ง และมันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอันรุนแรงของ Chandra มันจึงเลือกที่จะปั่นหัวเธอ เพราะมันเชื่อว่า “Chandra จะกลายเป็นภัยที่ร้ายยิ่งกว่า Nicol Bolas”
Tibalt ครึ่งคน ครึ่งปีศาจ จากความวิปริตของตัวเอง
กระนั้นก็ดี Tibalt ไม่ได้มีอะไรมากกว่าความสามารถในการเล่นกับความรู้สึก ซึ่งในตอนนี้ Chandra สามารถควบคุมมันได้แล้ว
ทั้ง Ajani และ Chandra จึงสามารถจัดการกับ Tibalt ลงไปได้
และ Chandra ก็ได้ความสงบที่เธอตามหามานานกลับคืนสู่ใจของเธอ…
ก็จบลงไปสำหรับ Planeswalker’s Profile : Chandra Nalaar นะครับ
และขอขอบคุณสำหรับการติดตาม มากๆ ครับ