LILIANA VESS

"เมื่อรู้สึกว่าคุณกำลังจะหายไป... ฉันจะเป็นคนสงเคราะห์ให้เอง"

 

Liliana Vess เป็น Planeswalker เพศหญิง นอกจากความสวยทรงเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยากของเธอแล้ว เธอยังเป็นจอมเวทย์ที่มีความชำนาญด้านเวทย์มนต์ดำแห่งความตาย เธอสามารถปลุกชีพศพ และทำร้ายสิ่งที่มีชีวิตได้ด้วยเวทย์มนต์ของเธอ

Liliana เป็น Planeswalker ที่มีความเป็นสีดำ นั่นคือเธอจะใฝ่หาอำนาจเพื่อตัวเอง และยินดีที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้พลังสูงสุดอย่างที่เธอต้องการ

เมื่อเธอ Planeswalk เธอจะหายตัวไปในเมฆหมอกสีดำครับ

 


Liliana Vess ในวัยเยาว์

 

Liliana เกิดและโตที่ Plane Dominaria โดยตระกูลของเธอ เป็นคนใหญ่คนโตอยู่ที่นี่ ในวัยเด็ก เธอได้เรียนรู้วิชาทางการรักษา แต่ตัวเธอเองก็ยังสนใจในเรื่องเวทย์มนต์หมอผีเพิ่มเติม เพราะเธอเชื่อว่า น่าจะช่วยเสริมพลังให้กับวิชาทางสายการรักษาของเธอได้

 

และแล้ว วันหนึ่ง พี่ชายของเธอ ก็ถูกสาปด้วยมนต์ดำโดยอริของพ่อเธอ ในตอนนั้น เธอจำเป็นต้องรักษาน้องชายของเธอ แต่ทว่า เธอต้องใช้สมุนไพรบางอย่าง ที่ป่าแถวๆ คฤหาสน์ของเธอ

เมื่อเธอไปถึง… พื้นที่บริเวณนั้น ก็ถูกอริของพ่อเธอเผาทำลายไปแล้ว สมุนไพรที่เธอต้องการคือรากไม้ที่ในตอนนี้ เหลือเพียงตอตะโก... 

ทันใดนั้น ก็มีร่างปริศนาปรากฏขึ้นมา และบอกกับเธอว่า เขาเป็นผู้สนับสนุนพ่อของเธอ พร้อมกับแนะนำให้เธอลองใช้เวทย์มนต์แห่งความตาย ชุบชีวิตต้นไม้ต้นนี้ขึ้นมา… Liliana ไม่รอช้า และเธอก็ทำมันได้สำเร็จ เธอได้รากไม้สมุนไรเพื่อไปปรุงยาอย่างที่เธอหวัง


 

ก่อนที่บุคคลปริศนานั้น จะเตือนเธอว่า “คนในครอบครัวของเธอ คงจะไม่เห็นด้วยกับการเอารากไม้นี้ไปใช้ปรุงยาหรอกนะ”

 

แต่ชีวิตของพี่ชายเธอมีความหมาย เธอจำเป็นต้องเสี่ยงกับมัน Liliana ปรุงยาแล้วใช้มันกับพี่ชายของเธอ…

ยาดูเหมือนจะได้ผล พี่ชายของเธออาการดีขึ้นทันที… ก่อนที่เขาจะเริ่มมีอาการแปลกๆ

Josu ผู้ที่เป็นพี่ชายของ Liliana เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เขากลายเป็นปีศาจกระหายเลือด และเข้าโจมตีทุกๆ คนในคฤหาสน์ Liliana พยายามชุบชีวิตศพที่เป็นเหยื่อของ Josu เพื่อที่จะหยุดเขา… เธอไม่สามารถทำอะไร ก่อนที่เธอจะได้รับ Spark แล้ว Planeswalk ไปที่ Innistrad

 

ที่นั่น เธอเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอเริ่มฝึกวิชาการปลุกชีพศพมากกว่าวิชาแห่งการรักษา จนเธอเชี่ยวชาญในพลังของเธอ ก่อนที่จะพบกับ “Sorin Markov” เธอต้องการจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่ เพราะเธอเชื่อว่ามันเป็นที่ของเธอ (Innistrad เต็มไปด้วยผีดิบและศาสตร์การสร้างผีดิบก็เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว) เธอพยายามต่อสู่กับ Sorin เพื่อการยึด Plane นี้เป็นของเธอ…

แต่เธอก็พ่ายแพ้เขา และ Sorin ก็แนะนำให้เธอกลับไป ก่อนที่เขาจะเลือกฆ่าเธอทิ้ง…

เธอจึงต้องกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงที่ Dominaria บ้านของตระกูล Vess ของเธอเหลือแต่เพียงเศษซากของความรุ่งเรือง เธอสาบานกับตัวเองว่า จะตามหาชายคนที่หลอกให้เธอใช้รากไม้นั้นไปปรุงยาและฆ่าเขาทิ้งซะ

เมื่อได้พบกับชายคนนั้น เขาก็สามารถหนีไปได้ และ Liliana ก็เรียกเขาว่า Raven Man จากการที่เขาสามารถแปลงร่างเป็นอีกาได้นั่นเอง

 

- พลังที่หายไป -

หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า The Mending ที่ส่งผลกระทบให้บรรดา Planeswalker ทุกๆ คนสูญเสียพลังบางส่วนไป โดยก่อนหน้าที่จะมี The Mending นั้น Planeswalker ทุกคนมีพลังระดับพระเจ้า ไม่มีวันตาย ถึงขั้นสามารถสร้าง Plane ของตัวเองได้เลย

 

“Nicol Bolas” บังเอิญได้พบกับ Liliana และ Liliana ที่รับรู้ถึงพลังอันมหาศาลของ Bolas นั้น ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอิจจฉา ที่ Bolas ไม่ได้รับผลกระทบจาก Mending เลย…

Bolas ตอบกลับมาว่า “เจ้าไม่รู้หรอก ว่าพลังที่ข้าสูญเสียไปจาก Mending นั้น มันมีมากกว่าที่เจ้าจะสามารถเรียนรู้ได้ทันในช่วงหลายช่วงอายุขัยของเจ้า” 

และ Bolas ก็เสนอให้พลังระดับ “ก่อนเกิด Mending” แก่ Liliana โดยมันจะเป็นนายหน้าทำการติดต่อเพื่อทำสัญญาทาสกับปีศาจ 4ตน… 

แน่นอนว่าเธอก็ตอบตกลง

 

- พบกับ Jace และจิตใจที่หวั่นใหว -

Liliana ได้เดินทางไปที่ Ravnica และได้รับการติดต่อจากสมาคม Infinite Consortium ของ Tezzeret เพื่อว่าจ้างเป็นครั้งคราว และที่นี่เธอก็พบกับ “Jace Beleren” แม้ว่าเธอจะมีความรู้สึกที่ดีๆ ให้กับเขา แต่เธอก็หักหลังเขา โดยพยายามหลอกล่อให้เขาเข้าต่อสู้กับ Tezzeret เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปลดปล่อยเธอจากสัญญาทาส ที่ Nicol Bolas หลอกใช้เธอมาอีกที… (แน่นอนว่ามันไม่ได้ผล)

Nicol Bolas เพียงแค่รำคาญสมาคมของ Tezzeret ที่สร้างวุ่นวายมากเกินไป และต้องการจะล้มล้างสมาคมนี้ทิ้งเท่านั้น มันไม่ได้สนใจจะยกเลิกสัญญาทาสให้ Liliana ด้วยซ้ำไป…

 

ด้วยสัญญาทาสที่ยังติดตัว Liliana อยู่ เธอจึงทำได้แค่ปล่อยให้ Jace ไปตามทางของเขา เพราะเธอรู้ดีว่า การที่เอาตัวเองเข้าไปผูกมัดกับเขา จะยิ่งทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยาก

 

- คำสั่งจากปีศาจ เพื่อพลังแห่งปีศาจ -

Kothophed หนึ่งในปีศาจที่ Liliana ทำสัญญาทาสเพื่อแลกเปลี่ยนพลัง ได้ให้คำสั่งกับเธอไปตามหาวัตถุโบราณอันหนึ่งที่ plane Shandala

เมื่อเธอไปถึง ก็พบกับวัตถุโบราณอันนั้น มันมีลักษณะเป็นผ้าคลุมหน้า ที่สร้างมาจากโซ่ทองที่มีความละเอียดดุจเส้นไหม… มันมีชื่อว่า Chain Veil

ก่อนที่เธอจะได้สัมผัส Chain Veil เธอถูกโจมตีโดยสัตว์ เธอจัดการฆ่ามันเสีย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า นั้นเป็นสัตว์ของ “Garruk”

การที่เธอไปฆ่าสัตว์ของ Garruk ทำให้เขาโกรธมาก และไล่ล่าเธอ ในขณะนั้น Liliana ที่ได้ Chain Veil ในครอบครองแล้ว เธอใช้พลังของมันเพื่อสาป Garruk โดยที่เธอไม่รู้ผลของมัน เธอทำเพียงเพื่อจะหนีจากการล่าของเขาเท่านั้น

 

หลังจากที่ใช้พลังของ Chain Veil และ Planeswalk หนีมาได้ เธอก็ทดลองใช้พลังของมัน ก่อนที่เธอจะคิดไปเองว่า “พลังระดับนี้ Kothophed น่าจะรู้ว่ามันดีกับตัวฉัน (Liliana) และฉันควรจะเก็บมันไว้เอง”

 


พลังของ Chain Veil

เธอ Planeswalk กลับไปหา Kothophed และบอกกับมันว่า เธอต้องการจะเก็บ Chain Veil ไว้กับตัวเอง... 

Kothophed ไม่พอใจอย่างมาก และเข้าโจมตีเธอ... แต่ด้วยพลังแห่ง Chain Veil Liliana สามารถใช้พลังของมันเพื่อจัดการ Kothophed ผู้ถือสัญญาทาสของเธอได้ 

แต่ก่อนที่มันจะถูกฆ่า Kothophed ขอร้อง Liliana ว่า “เจ้าไม่รู้หรอกว่า สิ่งนั้นมันจะทำอะไรกับเจ้า และการฆ่าข้า ไม่ช่วยให้ความหวังของเจ้าสมปราถนาหรอก” 

 

กระนั้น Liliana ก็ลงมือจัดการฆ่า Kothophed อยู่ดี…

ทันทีที่ Kothophed ได้สิ้นชีพ รอยสักของบนตัว Liliana ที่ Kothophed เป็นคนลงอักขระไว้ ก็เริ่มหลั่งเลือดออกมา เธอร้องด้วยความเจ็บปวด แผลนี้ไม่ได้บาดเจ็บเพียงร่างกาย แต่มันบาดลึกไปถึงจิตวิญญาณของเธอ และไม่มีตัวเลือก เธอจึง Planeswalk กลับไปที่ Shandala เพื่อหวังให้ได้พบข้อมูลที่จะหยุดความเจ็บปวดนี้

 

เธอเลือกที่จะปลุกชีพคนที่ฉลาดที่สุดใน Shandala นั่นคือเผ่าพันธ์ุ Onakke ที่เป็นผู้สร้าง Chain Veil เธอหวังที่จะได้ข้อมูลมาเพื่อหยุดความเจ็บปวดนี้ แต่ทว่า ศพที่เธอปลุกขึ้นมา ทำได้แค่พูดภาษาที่เธอไม่เข้าใจ แถมยังทำให้ประชากรใน Plane มองว่าเธอเป็นแม่มด และไล่ล่าเธอ…

Liliana ที่ถูกขังอยู่ในกระท่อม เธอกำลังจะถูกเผาทั้งเป็น ในตอนนี้เธอทำได้แค่สั่งให้ Onakke ตนนั้นอุ้มเธอขึ้นให้พ้นไฟ

ในห้วงขณะที่เธอจะยอมแพ้ และยอมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ร่างของ Onakke ตนนั้นก็เปลี่ยนเป็น Raven Man

เขาหยิบยาขวดที่เหมือนกับยาที่ Liliana เคยใช้กับพี่ชายของเธอ และแสงสีทองก็ไหลไปตามรอยสักของเธอ

 

บาดแผลของเธอหายดีแล้ว เธอหันกลับไปเห็นเจ้าของร่างที่รักษาเธอ และเห็นว่ามันคือ Raven Man เธอตัดสินใจแทง Raven Man แทนคำขอบคุณ ก่อนที่จะสวม Chain Veil และ Planeswalk หนีไป

ก่อนจะเข้าสู่บทความ Planeswalker's Profile ของ Liliana ตอนที่ 2 ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 ไปอ่านได้ ที่นี่ เลยครับ

 

- Innistrad กับสัญญาของปีศาจ -

Liliana กลับมาที่ Innistrad เพราะเธอมีสัญญาทาสกับจอมปีศาจที่นี่ นั่นก็คือ Griselbrand และเธอต้องการที่จะจัดการลบล้างสัญญาเหมือนกับที่เธอทำกับ Kothophed


Griselbrand เจ้าของสัญญาทาส

แต่ทว่าเมื่อเธอมาถึงที่ Innistrad ก็พบว่า Griselbrand นั้นก็หายสาบสูญไปแล้ว เธอจึงต้องออกตามหาเจ้าปีศาจเพื่อจบเรื่องนี้ซะ
ก่อนที่เธอจะพบว่า Griselbrand นั่นถูกขังอยู่ที่ Helvault ที่เป็นคุกหิน เธอเป็นตอมเวทย์แห่งความตาย แน่นอนว่าความตายมันไม่มีผลกับก้อนหินอยู่แล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรกับ Helvault ได้เลย…

จนเธอมีข้อมูลเกี่ยวกับใครซักคนที่จะสามารถเปิดคุกแห่งนี้ออกมาได้...

 

Thalia หัวหน้าหน่วยทหารแห่งเมือง Thraben และผู้พิทักษ์ Helvault เธอเป็นคนที่สามารถทำลาย Helvault ได้ และเธอคือเป้าหมายของ Liliana ในการเปิดคุกหินแห่งนี้

Liliana เธอใช้พลังของเธอบีบบังคับให้ Thalia ต้องเลือกระหว่างทำลายคุกหิน หรือจะปล่อยให้ Liliana ฆ่าคนทั้งหมดของเธอทิ้ง… Thalia ไม่มีตัวเลือก เธอจึงยอมทำลาย Helvault ตามความต้องการของ Liliana


Thalia กับตัวเลือกที่จำเป็นต้องเลือก

Griselbrand นั้นหลุดออกมาจากที่คุมขัง แต่ไม่เพียงแค่จอมปีศาจเท่านั้นที่ได้รับอิสระ Avacyn นางฟ้าผู้พิทักษ์เมือง เธอยอมถูกขังไปพร้อมกับ Griselbrand และ “Nahiri” ก็ได้หลุดออกมาจากที่คุมขังด้วย

แต่นั่นไม่ได้ทำให้เป้าหมายของ Liliana เปลี่ยนแปลง เธอจัดการกับ Griselbrand ด้วยพลังของ Chain Veil ได้สำเร็จ…

 

- เสียงกระซิบจากอดีตกาล -

แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น เมื่อเธอสังหาร Griselbrand เธอเริ่มได้ยินเสียงกระซิบจาก Chain Veil 

เพื่อหาคำตอบ เธอจึงเลือกที่จะกลับไปที่ Shandala อีกครั้ง เมื่อเธอกลับไปก็พบว่า วิหารที่เธอไปเอา Chain Veil ออกมามีนางฟ้าป้องกันอยู่ และนางฟ้าตนนั้นพยายามไม่ให้เธอเข้าไป…

ก็แน่นอนว่า Liliana ไม่สนใจคำเตือนนั้น และฆ่าเธอทิ้ง ก่อนที่นางฟ้าจะตาย เธอได้พูดประโยคหนึ่งว่า “เธอ(Liliana) มันแค่ร่างอันว่างเปล่า ที่รอให้วิญญาณของ Onakke ได้กลับมาสู่โลกนี้อีกครั้ง”

 

แล้ว Liliana ก็เห็นภาพในหัวของเธอ มันเป็นภาพในอดีตกาล สมัยที่ Onakke เป็นเผ่าพันธ์ุที่รุ่งเรือง และในนั้นเธอเห็น Raven Man เป็นผู้ทำลายอาณาจักร Onakke อันรุ่งเรืองลงไป 

เมื่อภาพนั้นหยุดลง เธอร้องขอที่จะเรียนรู้ “เวทย์ที่จะทำลายล้างอาณาจักรอันนั้น” จาก Chain Veil และเธอก็ได้คำตอบนั้นสมใจ

Liliana รู้สึกว่าเธอได้ข้อมูล และใช้พลังของมันมามากพอแล้ว แถมเธอยังรำคาญไอ่เสียงกระซิบที่ออกมาจากมันไม่หยุดหย่อน เธอจึงเลือกที่จะหยุดใช้ Chain Veil แต่เมื่อเธอกำลังจะเอามันกลับไปวางที่เดิม เธอก็พบว่า ตัวเธอไม่สามารถจะบังคับร่างกายตัวเองให้ปล่อย Chain Veil ออกจากมือได้ 

เธอพยายามคืนชีพกองกระดูก เพื่อให้มันทำหน้าที่นั้นแทนเธอ เจ้ากระดูกมันรับ Chain Veil ไป แต่ก็ไม่นำไปวางบนแท่นวางให้เธอ และเมื่อเธอเดินออกมาจากวิหาร กระดูกที่เธอคืนชีพขึ้นมาก็ยังตามเธอมาอีก

เธอยกเลิกเวทย์มนต์ของเธอ เพื่อให้ผีกระดูกตนนั้นสลายร่างไป แต่มันกลับกระโจนเข้าใส่เธอ และเอา Chain Veil ไปวางไว้บนมือของเธอก่อนจะสลายร่างของตัวเองไป…

 

Liliana เริ่มสติขาด เธอตะโกนร้องให้เสียงนั้นเงียบไปเสียที… แต่สิ่งที่เธอได้รับคือเสียงที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม กับโครงกระดูกอีกร่าง ที่ยืนต่อหน้าเธอ และค่อยๆ มีร่างลวงตามาครอบร่างกระดูกอีกที ร่างนั้นปรากฏตัวเป็น Onakke ตนหนึ่ง

 

Liliana พยายามที่จะกำจัดร่างนั้น แต่การโจมตีของเธอก็ทะลุผ่านร่างนั้นไป และเจ้า Onakke ก็เริ่มพูดคุยกับ “ร่างภาชนะ” อย่าง Liliana

โดยมันบอกว่า สิ่งที่เธอถืออยู่นั้น มันเรียกว่า ”ผ้าคลุมหน้าแห่งความลวง” (Veil of Deceit) และอีกไม่นาน เธอจะได้รู้ความจริง

เพื่อตัดรำคาญ Liliana เลือกที่จะกำจัดร่างวิญญาณนั้นด้วยพลังแห่ง Chain Veil… ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกตัวว่า ทุกครั้งที่เธอใช้พลัง มันเริ่มสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นๆ และเสียงกระซิบของมันก็ยังไม่หายไปไหนเช่นเดิม… เธอหมดสิ้นหนทางที่จะแก้ไขคำสาปของ Chain Veil และทำได้เพียง planeswalk อย่างสิ้นหวังออกไปจาก Shandalar

 

- ภัยจาก Blind Eternities -

Liliana กลับมาที่ Ravnica เพื่อจะล่อลวงให้ Jace ช่วยจัดการกับปีศาจเจ้าของสัญญาทาสของเธอ แต่ทว่า Jace ที่รู้เรื่องที่เธอทำไว้กับ Garruk เลือกที่จะปฏิเสธเธอ และเขายังไม่หายโกรธกับสิ่งที่เธอทำไว้กับ Garruk

แต่ Liliana ก็ไม่ถอดใจ จนกระทั่ง “Gideon Jura” ได้ Planeswalk เข้ามาเพื่อขอร้องให้ Jace ช่วยเหลือเรื่องภัยของ Eldrazi ที่ Zendikar

 

Jace ตอบตกลงทันที นั่นทำให้ Liliana ไม่พอใจอย่างมาก เธอถาม Jace กลับไปว่า “ทำไมเธอถึงเลือกที่จะช่วยอีตาคิงคองนั่น แต่ไม่ช่วยฉันล่ะ”

 

Jace ตอบกลับมาว่า “เพราะเขามาขอร้องด้วยความจริงใจ ไม่ใช่มาหว่านเสน่ห์ แล้วรอหักหลังเหมือนเธอ”

 

Liliana เธอหงุดหงิดและเดินออกไป ก่อนที่จะพบกับ Raven Man อีกครั้ง โดยเขาเข้ามาบอกเธอว่า เขาสามารถช่วยเธอได้นะ… แน่นอนว่าจากประสบการณ์ของเธอ การ “ช่วยเหลือ” แบบของ Raven Man นี่แหละ ที่ทำให้เธอแทบสิ้นตระกูล เธอจึงหันกลับไปโจมตีเขา แต่ Raven Man ก็หายตัวไป และทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะตอนจากลา…

 

ในช่วงเวลาที่ Jace และผองเพื่อน Gatewatch จัดการ Eldrazi ที่ Zendikar ตัว Liliana ก็กลับไปที่ Innistrad อีกครั้ง และเธอก็รับรู้ถึงบางสิ่งที่แปลกไปจากการมาที่นี่เมื่อครั้งก่อน เธอจึงวางแผนการป้องกันให้รัดกุมมากขึ้นกว่าเดิม

และ Jace ที่จะมาหา Sorin ก็มาถึงที่ Innistrad แต่เขาถูกโจมตีจากฝูงมนุษย์หมาป่า Liliana จึงเข้าไปช่วยเขาด้วยฝูงผีดิบ ก่อนที่จะเชิญเขามาที่คฤหาสน์ของเธอ (ซึ่งหลังจากนี้ เรื่องราวจะเหมือนกับที่เราเคยเขียนไปในเรื่องราวของ Jace Beleren เลยครับ แต่เราก็จะเพิ่มเติมในส่วนมุมมองของ Planeswalker ตัวนี้เข้าไปนะครับ) 

จนกระทั่ง Jace และเพื่อน Gatewatch เข้าโจมตี Emrakul

Liliana ที่รู้ว่า Emrakul ได้มาถึงที่ Innistrad แล้ว ในตอนแรกเธอเลือกที่จะไปจากที่นี่ทันที แต่ทว่า... เธอก็นึกเป็นห่วง Jace ที่เขาพยายามจะไปที่ Thraben  แต่เธอกลับพยายามหาเหตุผลในการเข้าร่วมศึกครั้งนี้ (เพื่อจะได้บอกได้อย่างเต็มปากว่า เธอไม่ได้ทำเพื่อ Jace) ด้วยเหตุผลเรื่องที่เธออาจจะได้ “พันธมิตร” มาช่วยในการจัดการกับปีศาจเจ้าของสัญญาของเธออีก 2ตน… 

 

เมื่อเธอเห็นประโยชน์ที่จะเสี่ยง เธอจึงเริ่มคืนชีพฝูงผีดิบระหว่างทางไปจนถึง Thraben คลื่นฝูงผีดิบของเธอเข้าโจมตีบรรดา Eldrazi ที่เกิดมาจาก Emrakul

แต่เมื่อเธอไปเจอ Emrakul เธอเริ่มสูญเสียการควบคุมฝูงผีดิบของเธอ Chain Veil และ Raven Man ส่งเสียงเข้าไปในหัวของเธอให้หนีจากที่นี่ซะ

แต่เธอกลับเลือกที่จะดึงพลังจาก Chain Veil มากขึ้นไปอีก… ฝูงผีดิบของเธอกลับมาเชื่อฟังคำสั่ง แถมเธอยังสามารถใช้พลังของเธอโจมตี Emrakul โดยตรงได้อีกด้วย

กระนั้น การดึงพลังมาใช้มากขนาดนั้น ก็สร้างภาระให้กับเธออย่างมาก… จนเธอหมดสติไป

 

เมื่อเธอได้สติ ก็พบว่า Emrakul นั้นโดนผนึกที่ดวงจันทร์ไปเรียบร้อยแล้ว และเพื่อทำตามแผนของเธอ เธอเลือกที่จะเข้าร่วม Gatewatch โดยคำสัตย์สาบานของเธอคือ… “ฉันจะคอยดูแล… พอใจรึยัง?”


คำสัตย์สาบานที่... ไม่แคร์สื่อซักนิด

 

 

- สู่ Kaladesh เมืองที่ไม่อยากไป แต่ก็ต้องไป -

เมื่อสมาชิก Gatewatch ได้รับเชิญให้ไปอารักขาความปลอดภัยที่ Kaladesh แม้ว่า Liliana เองจะปฏิเสธในตอนแรก แต่เมื่อเธอรับรู้ปูมหลังของ “Chandra Nalaar” ที่เธอเกิด และครอบครัวของเธออยู่ที่นั่น Liliana เลือกที่จะพา Chandra ไปที่ Kaladesh เพื่อให้เธอสบายใจ…

 

ก่อนที่จะยุให้ Chandra เริ่มต้นการปฏิวัติต่อสภาสูง ที่ฆาตรกรรมพ่อ, แม่ ของเธอ ซึ่งทำให้เกิดสงครามกลางเมืองเลยทีเดียว จนกระทั่ง Nissa ตามมา และต่อว่า Liliana เรื่องที่เธอยุให้ Chandra ทำอะไรที่เสี่ยงตายขนาดนั้น

 

Liliana รู้ตัวว่าเธอจะปล่อยให้ “พันธมิตร” ของเธอมาตายก่อนที่จะเข้าแผนของเธอไม่ได้ และเนื่องจากเธอเห็นว่า Tezzeret อยู่ที่นี้ เธอจึงกลับไปแจ้ง Jace กับ Gideon ให้ไปช่วย Chandra และ Nissa ที่ Kaladesh

 

ซึ่งเมื่อทั้งทีม Gatewatch มาถึงที่นี่ Liliana กับ “Saheeli Rai” ก็เป็นผู้ไขปริศนาการปรากฏตัวของ Tezzeret

เขามาที่นี่เพื่อที่จะขโมยผลงานของ Rashmi ที่เรียกว่า Planar Bridge ที่จะทำให้สิ่งไม่มีชีวิต สามารถเดินทางข้าม Plane ได้เหมือน Planeswalker เลย


Tezzeret

Liliana พยายามจัดการ Tezzeret จน Tezzeret ต้องถาม Liliana ว่าเธออยู่ฝ่ายไหนกันแน่… เพราะเขาทำงานให้กับ Nicol Bolas และคิดว่าเธอเองก็ถูก Nicol Bolas ส่งมาเพื่อจับตาดูการทำงานของเขา

 

Liliana ไม่เพียงแค่ไม่ต้องตอบ เพราะเธอถือไพ่เหนือกว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ และเธอยังรีดข้อมูลจาก Tezzeret ได้อีก… ทำให้เธอรู้ว่า Nicol Bolas อยู่ที่ Amonkhet และกำลังให้ Razaketh ทำพิธีอะไรบางอย่างที่นั่น…

ก่อนที่จะได้ข้อมูลมากกว่านั้น Gideon และ Chandra ก็เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้ Tezzeret หนีไปได้

 

Razaketh... หนึ่งในปีศาจที่ทำสัญญาทาสกับ Liliana เธอจึงแจ้งกับสมาชิก Gatewatch เรื่องของ Nicol Bolas เพื่อให้ทุกคนไปที่ Amonkhet และหวังว่า เธอจะล้ม Razaketh ได้จากความร่วมมือของ “พันมิตร” ของเธอ

 

- ทะเลทราย และการทำลายสัญญาปีศาจ -

เมื่อมาถึงที่ Amonkhet สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับ Liliana มีอยู่ 2อย่าง นั่นคือการเอาผีดิบมาเป็นทาสรับใช้ด้วยการสร้างมัมมี่ ด้วยความที่เป็นหมอผี เธอจึงรู้สึกดีกับ Plane ที่มีวัฒนธรรมยอมรับการเอาคนตายมาเป็นทาสรับใช้

 

และอีกอย่างหนึ่งคือ การมีอยู่ของพระเจ้า เพราะสำหรับเธอนั้น พระเจ้าที่เธอรู้จักก็คือ Planeswalker ในช่วงก่อน Mending นั่นเอง


Kefnet หนึ่งใน God ของ Amonkhet

 

และแน่นอนว่า การที่ Liliana ได้ความช่วยเหลือจาก Gatewatch ก็สามารถจัดการกับ Razaketh ลงได้
อย่างไรก็ดี เรื่องราวของ Gatewatch หลังจากที่ช่วยกันจัดการ Razaketh นั้น ก็ไปจบที่การเผชิญหน้ากับ Bolas แต่ในศึกครั้งนี้ Liliana เธอ Planeswalk หนีไปโดยไม่ได้ร่วมต่อสู้ด้วยซ้ำ… ซึ่งนั่นก็ส่งผลเสียที่รุนแรงตามมา


Razaketh เจ้าของสัญญาทาส

 

- กลับสู่จุดเริ่มต้น... กลับสู่ Dominaria -

Liliana ที่รอ Gatewatch อยู่ที่ Dominaria เนื่องจากเป็นสถานที่นัดพบหลังจากศึกที่ Amonkhet… 

เธอก็เจอกับความโกรธเกรี้ยวของ “Nissa Revane” ที่เห็นว่า Liliana ไปที่นั่นเพียงเพื่อจัดการกับเรื่องของตัวเองเท่านั้น Nissa เชื่อว่า Liliana ไม่ได้ต้องการที่จะจัดการกับ Nicol Bolas ด้วยซ้ำ แค่หลอกใช้พวกเธอให้ไปจัดการกับการฉีกสัญญาปีศาจของเธอคนเดียว

 

แม้ว่า Liliana จะพยายามอธิบายสาเหตุที่เธอต้องจัดการสังหารปีศาจอย่าง Razaketh ก่อน เพื่อความสามารถในการปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของเธอก็ตาม แต่ Nissa ก็ไม่ยอมรับฟัง

และ Liliana ก็ยังพูดถึงปีศาจตนสุดท้าย… Belzenlok และมันอยู่ที่นี่ ที่ Dominaria


Belzenlok ปีศาจเจ้าของสัญญาทาส

 

Nissa รู้สึกขยะแขยงกับพฤติกรรมของ Liliana เธอจึง Planeswalk ออกไป 

ส่วน Chandra ที่เธอคิดว่า พลังของเธอตอนนี้ยังไม่เพียงพอ เธอก็ Planeswalk ไปเพื่อฝึกฝนเพิ่มเติม…

Gatewatch ที่ตอนนี้เหลือเพียง Liliana กับ Gideon (ส่วน Jace ไม่ได้มาที่ Dominaria เพราะหลงไปที่ Ixalan)
Gideon เขาเชื่อ Liliana ว่าการสังหารปีศาจทั้งหมด เป็นเรื่องจำเป็นกับ Liliana ก็ออกเดินทางเพื่อทำภารกิจของเธอ

 

แต่กระนั้น ศึกที่ Amonkhet ก็ทำให้ Gideon บาดเจ็บ Liliana ที่เธอรู้ว่าที่ไหนจะหายารักษาได้ จึงได้พาเขาไปที่ๆ เธอคุ้นเคย… "คฤหาสน์ตระกูล Vess"

 

เมื่อเธอไปถึง สภาพที่ดินได้เปลี่ยนไปเป็นดินแดนรกร้าง จากพวกที่เรียกตัวเองว่า The Cabal อันเป็นกลุ่มสมาคมที่เชื่อ และบูชา Belzenlok ที่ดินแดนแห่งนี้

สมุนไพรที่สามารถนำมาทำยารักษาได้ ก็ยังมีอยู่ แม้ว่าดินแดนรอบๆ จะกลายเป็นที่รกร้างไปแล้ว แต่คฤหาสน์ของตระกูลเธอยังคงอยู่ ซึ่งมันก็ดึงดูดให้เธอกลับเข้าไปที่คฤหาสน์ที่เคยเป็นของเธอ

 

เมื่อเธอเข้าไป และโดนโจมตีโดยสมุนของ The Cabal เธอเรียกผีดิบขึ้นมาโจมตี และเชื่อมโยงจิตได้ว่า… มันเป็นผีดิบที่ถูกเรียกขึ้นมาโดยพ่อมดผีดิบ… Josu Vess พี่ชายของเธอนั่นเอง

ตอนนี้ Josu ถูกชุบชีวิตขึ้นมาในฐานะพ่อมดผีดิบ จากพิธีกรรมของพวก The Cabal และเชื่อมพลังเข้ากับการกลับมาของ Belzenlok


Josu Vess กับชีวิตใหม่ ในฐานะ Lich lord

เธอต้องการจะให้พี่ชายของเธอหลุดพ้นจากคำสาปนี้ แต่เธอไม่มีใครให้ปรึกษา นอกจากคนที่เคยเสนอความช่วยเหลือให้เธอ… Raven Man

ทว่า คำตอบของเขาทำให้เธอผิดหวัง เธอจึงไม่มีตัวเลือก นอกจากต้องใช้พลังของ Chain Veil จัดการกับ Josu และนั่นจะทำให้เธอไม่มีพลังมากพอจะใช้ Chain Veil อีกครั้งเพื่อจัดการกับ Belzenlok

 

ในตอนนี้ที่เหลือเพียง Liliana กับ Gideon เธอจึงบอกเขาไปตามตรง แม้ว่าเธอจะคาดหวังว่าเขาจะทิ้งเธอไปเหมือนๆ กับสมาชิก Gatewatch คนอื่นๆ แต่ Gideon กลับเห็นด้วยที่ส่งให้พี่ชายของ Liliana ไปสู่สุขคติเสียที

 

หลังจากที่จัดการกับ Josu ได้ ทั้งคู่ก็ไร้หนทางในการจัดการกับ Belzenlok

จนกระทั่ง ทั้งคู่ได้รู้ถึงการมีอยู่ของ Blackblade ดาบดูดวิญญาณ ที่ว่ากันว่า มันสามารถล้มได้แม้แต่มังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

 

และก็แน่นอนว่ามันได้ผล ทั้งคู่สามารถจัดการกับ Belzenlok ปีศาจผู้ถือสัญญาทาสตนสุดท้ายไปได้

หลังจากเรื่องจบลง Jace และ “Ajani Goldmane” ก็มาที่ Dominaria เพื่อให้สมาชิก Gatewatch ช่วยกันกลับไปตั้งรับ Nicol Bolas ที่ Ravnica

 

Planeswalker ทุกๆ คนก็ Planeswalk ไปที่ Ravnica… เหลือเพียง Liliana

เธอพยายาม Planeswalk ออกไป แต่เธอก็พบว่า เธอไม่สามารถทำมันได้… ก่อนที่เงาของร่างมังกรที่คุ้นเคยจะปรากฏมาที่ด้านหลังของเธอ…

Nicol Bolas ผู้ที่เป็นนายหน้าสัญญาทาสของเธอปรากฏตัวขึ้น และได้แจ้งเงื่อนไขของสัญญาใหม่ให้เธอทราบ

“เมื่อเจ้าของสัญญาทั้ง 4 ตนได้ตายลง ข้า... ผู้เป็นนายหน้า จะกลายเป็นเจ้าของสัญญานั้นแทน”

“และถ้าหากเจ้า เลือกที่จะปฏิเสธ พลังที่เจ้าได้ไป จะสลายหายไป เจ้าจะแก่ และตาย ร่างกลายเป็นผุยผงที่ตรงนี้… ก่อนที่เจ้าจะรู้ตัวเสียอีก”

ไม่มีตัวเลือกอื่นใด Liliana เธอจึงต้องยอมให้ Nicol Bolas พาตัวเธอไป

 

 

- ศึกสุดท้าย การหักหลังครั้งสุดท้าย -

เมื่อทั้ง Bolas และ Liliana มาถึง Ravnica เจ้ามังกรได้มอบหน้าที่การเป็นผู้ควบคุมกองทัพ The Eternal ซึ่งเป็นผีดิบทั้งหมด

Liliana พยายามที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายมากจนเกินไป แต่เธอก็ต้องระวังไม่ให้มันผิดสัญญาทาส ไม่เช่นนั้นเธอจะกลายเป็นผุยผงที่ตรงนี้

เธอบังคับให้พวก Eternal โจมตีเฉพาะสิ่งที่อยู่ในที่โล่ง และไม่เข้าไปในสิ่งปลูกสร้างเลย ซึ่งนั้นก็ช่วยให้เหล่า Planeswalker ที่เหลือสามารถปกป้องประชาชนของ Ravnica ได้ง่ายขึ้น

แต่ภาพความสูญที่เธอเห็นตรงหน้า กลับเกิดความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้สึกมานานแล้ว เธอผิดหวังกับตัวเอง และความรู้สึกผิดต่อคนอื่นๆ โจมตีจิตใจของเธอ… 

สิ้นคำสั่งของ Bolas ที่สั่งให้เธอใช้ Oketra และ Bontu อดีตพระเจ้าจาก Amonkhet ที่ตอนนี้กลายเป็นผีดิบไร้จิตวิญญาณไปแล้ว เข้าโจมตีเหล่า Planeswalker ผู้ต่อต้านมัน… 

 

เธอหันกลับไป และใช้พลังของเธอ ควบคุมเหล่า Eternal เข้าโจมตีมังกรเจ้าของสัญญาของเธอ…

 

สัญญาทาสที่ถูกฉีก... การหักหลังครั้งสุดท้ายที่ต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง… เธอทำในสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำมาก่อนในช่วงชีวิตกว่า 4,000 ปีที่ผ่านมา

 

ร่างของเธอถูกแผดเผา และเริ่มสลายไปจากการละเมิดสัญญา กระนั้น เธอก็ยังใช้พลังทั้งหมดที่มี ส่งกองทัพผีดิบเข้าโจมตี Bolas

Gideon เห็นดังนั้น เขาจึงมอบพลังที่เขามี พลังแห่งการเป็นอมตะ เขาส่งผ่านให้กับร่างของ Liliana

 

ร่างของ Liliana ไม่ถูกแผดเผาอีกต่อไปแล้ว… แต่กลายเป็น Gideon ที่รับผลของการละเมิดสัญญาปีศาจนั้น… ร่างของเขาสลายหายไปต่อหน้าเธอ

Oketra และ Bontu เข้าถึงตัว Bolas ได้แล้ว แถม Niv-Mizzet ที่ฟื้นคืนชีพจากการรวมเส้นพลัง Leyline ของ Ravnica เข้าโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัว 

แม้ว่ามังกรบ้าอำนาจจะจัดการกับ Oketra และควบคุม Niv-Mizzet ได้ แต่มันก็โดน Bontu งับเข้าเต็มคำ… Bontu ดูดพลัง Spark ที่ Bolas ได้เก็บไว้กับตัวจากพวก Planeswalker ที่ตายไป และของ Bolas เอง… ก่อนที่ตัว Bontu เองก็จะแตกสลายไปจากพลังที่ได้รับมามากเกินร่างจะทนได้

 

สงครามสุดท้ายจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Nicol Bolas… Jace รีบเข้ามาหา Liliana ที่ตอนนี้เจ็บปวดหัวใจอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึก

“พันธมิตร” ที่เธอมองว่าเป็นเพียงเครื่องมือในการทำลายสัญญากับปีศาจ กลับเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอ ยอมแลกชีวิตกับเธอในยามที่เธอไม่คิดว่าจะได้รับมัน

Jace บอกเธอให้รีบหนีไปจากที่ Ravnica ซะ เพราะทุกคนจะต้องตามล่าเธออย่างแน่นอน…

ทันทีที่ Immortal Sun เครื่องมือที่ทำให้ Planeswalker ไม่สามารถ Planeswalk ได้ ปิดตัวลง  Liliana ก็ออกไปจาก Ravnica ด้วยหัวใจที่เจ็บช้ำ…

 

- เส้นทางแห่งการชำระบาป -

Liliana ที่ตอนนี้ไปอยู่ที่ Dominaria ด้วยความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่เธอได้ทำกับ Jace และ Gideon ตลอดเวลาที่ผ่านมา… 

และแน่นอนว่าในตอนนี้เธอก็กลายเป็นคนร้ายใน Plane Ravnica เพราะ Niv-Mizzet ที่ตอนนี้เป็น Guildpact คนใหม่ไปแล้ว

เมื่อทีมล่ามาถึง พวกเขาปะทะกันเล็กน้อย ก่อนที่จะได้เริ่มพูดคุยกัน

 

Liliana ได้บอกกับพวกทีมล่าสังหารด้วยความจริงใจ ถึงความพยายามที่เธออยากจะลดความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและคำสั่งของ Nicol Bolas อย่างที่สุดแล้ว…

ทีมล่าสังหารก็รับฟัง และขอให้เธอทิ้ง Chain Veil เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าพวกเขาได้สังหารเธอไปแล้ว…

กระนั้น เธอก็ไม่สามารถปล่อยมือจากมันไปได้ เสมือนเหตุการณ์ที่ Shandalar 

เสียงกระซิบจากทั้ง Raven Man และวิญญาณของ Onakke ต่างเรียกร้องไม่ให้เธอทิ้งมันไป

แต่ Liliana ยังมีวัตถุทรงพลังอีกอย่าง มันคือ Spirit-Gem มันคือหินวิญญาณที่ลอยอยู่ระหว่างเขาของ Nicol Bolas
โดยตัวเธอแอบหยิบก่อนจะหนีออกมาจาก Ravnica

Spirit-Gem นั้น ไม่เพียงเป็นจุดศูนย์รวมพลังในการเก็บเกี่ยว Spark จากเวทย์มนต์ของ Bolas เท่านั้น แต่มันยังเป็นหินที่เชื่อมต่อกับมังกรอีกตัว นั่นคือ Ugin ที่เป็นคนจัดการกับ Nicol Bolas หลังจากสงคราม… หินวิญญาณนั้นเรืองแสง ประหนึ่งว่าจะให้เธอรับรู้ ก่อนที่มันจะหายไป… ราวกับว่าสัญญา และเงื่อนไขที่มีระหว่างเธอกับ Nicol Bolas ได้หมดไปแล้ว

 

Liliana ทิ้ง Chain Veil ลงกับพื้นได้สำเร็จ ทีมล่าสังหารจึงนำมันกลับไป Ravnica และ Kaya ที่เป็นหนึ่งในทีมล่าสังหาร ได้แนะนำให้เธอไปอยู่ที่ Fiora ที่เป็น Plane ที่ Kaya เคยเดินทางไปมาก่อน

แม้ Liliana จะได้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เป็น Liliana Vess คนเดิมอีกต่อไปอีกแล้ว

ก็จบกันไปสำหรับเรื่องราวของ Liliana แม้ว่าเธอจะเป็น Planeswalker ที่ใฝ่หาอำนาจ และพลังอันเป็นที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว การเข้าร่วม Gatewatch การได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่าง “เพื่อน” ก็ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ในที่สุด… เส้นทางของเธอก็ยังคงดำเนินต่อไปหลังสงครามครั้งสุดท้ายจบลงครับ

 

สำหรับตอนนี้ ขอบคุณสำหรับการติดตาม และขอลาไปก่อนครับ